fbpx

COVID-19 ป้องกันได้! Guildline สำหรับโรงเรียนและพ่อแม่ในการดูแลเด็กๆ

Writer : Lalimay
: 11 มีนาคม 2563

COVID-19 เป็นเชื้อไวรัสที่มีคนกล่าวถึงมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นเชื้อที่แพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว หากไม่มีการดูแลหรือป้องกันที่ดีพอ ส่วนมากเรามักจะเป็นกังวลเมื่อต้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีรวมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในโรงเรียนที่พ่อแม่ค่อนข้างกังวลเป็นพิเศษ

องค์กรยูนิเซฟ (UNICEF) องค์การอนามัยโลก (WHO และ IFRC ได้เผยแพร่แนวทางการดูแลและป้องกัน COVID-19 ในเด็กสำหรับโรงเรียนและพ่อแม่ ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจและสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับแต่ละโรงเรียนและครอบครัว วันนี้ Parents One จึงนำข้อมูลที่มีประโยชน์มาฝากทุกคนค่ะ

ข้อแนะนำสำหรับโรงเรียน

โรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมากทั้งเด็ก คุณครู และในบางครั้งก็ยังมีพ่อแม่อีกด้วย ซึ่งในหลายๆ ประเทศที่มีการระบาดอย่างรุนแรงก็ได้มีการประกาศปิดโรงเรียน เพื่อเป็นมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด แต่ก็ยังคงต้องมีการให้ความรู้เด็กต่อไป จึงได้มีการเรียนออนไลน์หรือการเรียนรู้ทางไกลเกิดขึ้น และทางโรงเรียนเองก็ต้องมีการทำความสะอาด เพื่อที่จะสามารถเปิดโรงเรียนใหม่อีกครั้งอย่างปลออดภัย

สำหรับในประเทศไทยหากยังไม่พบว่ามีบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อ การปิดโรงเรียนเลยก็ดูจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่  ดังนั้นโรงเรียนจึงต้องเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้น โดยทุกคนในโรงเรียนก็ควรมีส่วนร่วมในการป้องกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณครู เจ้าหน้าที่ เด็กๆ รวมไปถึงผู้ปกครองทุกคน

  • ควรมีระบบคัดกรองก่อนเข้าโรงเรียน โดยเริ่มตั้งแต่หน้าโรงเรียน ซึ่งควรมีทั้งการวัดอุณหภูมิ และการใช้เจลล้างมือ โดยถ้าเป็นไปได้ นอกจากวัดอุณหภูมิของเด็กแล้วก็ควรวัดของพ่อแม่หรือคนที่มาส่งด้วย
  • โรงเรียนควรเป็นกระบอกเสียงที่ดี คือให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการดูแลตัวเองแก่เด็กและพ่อแม่ โดยอาจทำเป็นแผ่นพับ โปสเตอร์ หรือเป็นข้อมูลทางออนไลน์แชร์ให้แก่พ่อแม่ในกลุ่มไลน์หรือเฟซบุ๊กของโรงเรียน ส่วนในห้องเรียนก็ต้องมีการสอนวิธีการดูแลตัวเองให้เด็กอย่างถูกต้อง
  • สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ล้างด้วยน้ำและสบู่อย่างถูกต้อง คือควรใช้เวลาล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที ตาม 7 ขั้นตอนการล้างมือที่สะอาดและถูกต้อง ในห้องน้ำก็ควรมีสบู่อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ก็ควรมีเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์วางไว้ในจุดที่เห็นได้ชัด เพื่อให้เด็กๆ และบุคลากรสามารถใช้ได้อย่างสะดวก
  • ทำความสะอาดห้องเรียน และข้าวของเครื่องใช้ของเด็ก เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเด็กมักจะใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกัน ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ รวมไปถึงของเล่น ดังนั้นจึงควรที่จะมีการทำความสำอาดสิ่งของเหล่านี้อยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรื่องของน้ำดื่มและห้องน้ำอีกด้วย
  • เปิดประตูและหน้าต่างเพื่อให้อากาศในห้องเรียนถ่ายเท หากเป็นห้องเรียนแบบแอร์ก็ควรเปิดระบายอากาศ และถ้าแสงแดดส่องถึงก็จะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ
  • หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีคนหมู่มาก เพื่อเป็นการป้องกันหากกิจกรรมไหนที่มีการรวมตัวกันของนักเรียน เช่น กีฬาสี การซ้อมเชียร์ ก็ควรเลื่อนออกไปก่อน อีกทั้งการออกไปทัศนศึกษาก็ควรเลื่อนออกไปเช่นกัน

 

ข้อแนะนำสำหรับพ่อแม่

พ่อแม่ก็คือบุคคลสำคัญที่ใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด และแน่นอนว่าคงต้องมีความกังวลไม่ใช่น้อยว่าลูกจะมีโอกาสติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่ แต่จากการเก็บข้อมูลของผู้ที่ติดเชื้อและเสียชีวิตจากทั่วโลกนั้น พบว่าเด็กที่ติดเชื้อมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบสัดส่วนกับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ ยิ่งอัตราการเสียชีวิตด้วยแล้วในเด็กที่อายุ 0-10 ปี ไม่มีการเสียชีวิตเลย ส่วนในเด็กที่อายุ 10-19 ปี มีอัตราการเสียชีวิตอยู่เพียง 0.2% เท่านั้น

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อย่าเป็นกังวลเกินไปนัก เพราะเราสามารถควบคุมสถานการณ์และป้องกันลูกของเราจากเชื้อ COVID-19 ได้ หากทำตามข้อแนะนำเหล่านี้

  • คอยสำรวจสุขภาพของลูกอยู่เสมอ ถ้าไม่สบายห้ามไปโรงเรียน นี่ถือเป็นด่านแรกที่มีความสำคัญมากๆ พ่อแม่ควรตรวจสุขภาพของลูกทุกวัน ด้วยการวัดอุณหภูมิของร่างกาย หากพบว่าลูกไม่สบายก็ห้ามให้ลูกไปโรงเรียน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ แม้ว่าลูกจะเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาก็ตาม
  • กระตุ้นให้เด็กถามคำถามและแสดงออกถึงสิ่งที่กำลังกังวล เมื่อลูกเจอสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อนก็ย่อมเกิดความสงสัย เพราะเมื่อก่อนเขาอาจจะไม่เคยต้องใส่หน้ากากอย่ามัย หรือคอยล้างมืออยู่ตลอดเวลา ดังนั้นนี้จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องอธิบายในสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น อาจกระตุ้นให้ลูกถาม เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน
  • เมื่อลูกไอหรือจามให้ใช้ทิชชู่ปิดปาก หรือใช้ข้อศอก ข้อนี้เป็นวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น คือสอนให้ลูกรู้จักปิดปากทุกครั้งที่ไอหรือจาม โดยควรใช้ทิชชู่รอง หากไม่มีก็ใช้แขนหรือช่วงข้อพับของแขนในการปิดปากแทน สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้เป็นเพราะว่าหากเราจามใส่มือ เชื้อโรคที่ติดอยู่ที่มือก็อาจจะแพร่กระจายไปได้ง่าย เพราะเราใช้มือในการหยิบสิ่งของ หรือสัมผัสสิ่งต่างๆ รวมไปถึงใบหน้า ก็ยิ่งมีโอกาสติดเชื้อได้มากขึ้น หรือถ้าจามใส่มือก็ควรรีบล้างมือทันที
  • หลีกเลี่ยงการให้ลูกใช้มือจับบริเวณใบหน้า อย่างที่กล่าวไปว่ามือเป็นสิ่งที่เราสัมผัสของหลายอย่างมากๆ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งของที่เราสัมผัสมีเชื้อโรคติดมาไหม ดังนั้นจึงควรสอนให้ลูกอย่าเอามือมาขยี้ตา จับหน้า จับปากหรือจมูก
  • หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด เชื้อแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งอยู่ร่วมกับคนหมู่มากก็อาจมีความเสี่ยงสูง ช่วงนี้จึงควรหลีกเลี่ยงพาลูกไปเดินห้าง หรือสถานที่ที่มีคนอยู่รวมตัวกันเยอะๆ
  • เมื่อลูกไม่สบายควรพาไปหาหมอทันที หากลูกมีไข้ ไอ และหายใจหอบ และหายใจลำบากขึ้นควรพาไปพบหมอ เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที

ที่สำคัญคือปลูกฝังทัศนคติที่ดีให้เด็ก

ในขณะที่มีโรคระบาดเกิดขึ้น ทุกคนก็ย่อมใส่ใจตัวเองและคนในครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางครั้งเราก็อาจเป็นกังวลมากจนเผลอไปจับผิดคนอื่น ซึ่งจริงๆ แล้วหากเราพบเจอคนที่ไม่ได้ป้องกันอย่างถูกวิธีเราก็สามารถเตือนกันด้วยถ้อยคำดีๆ ดีกว่ามานั่งจับผิดและใช้คำพูดในแง่ร้ายที่บั่นทอนทั้งคนพูดและคนฟัง

ดังนั้นในช่วงนี้เราก็สามารถพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสในการสอนสิ่งที่ลูกควรจะได้รู้ อย่างการดูแลตัวเอง เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม โดยเด็กมีแนวโน้มที่จะทำตามจากการเห็นแบบอย่างที่ดีมากกว่าการสอนหรือแนะนำโดยคำพูด เพราะเมื่อเขาสามารถดูแลตัวเองได้ ก็ย่อมลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่น

นอกจากนี้การสร้างสังคมที่มีความเอื้ออาทรต่อกัน ใส่ใจกันก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถสอนเขาได้ ในสถานการณ์แบบนี้เรายิ่งต้องมีความเอื้ออาทรกันมากขึ้น โดยพ่อแม่สามารถเป็นแบบอย่างในการช่วยเหลือคนอื่น ไม่รังเกียจผู้เจ็บป่วยหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ต่อว่าผู้อื่นรุนแรง หยิบยื่นน้ำใจให้กับคนรอบตัว อย่างที่เห็นได้ชัดคือการกักตุนหน้ากากอนามัยหรือเจลล้างมือ ที่บางคนก็กักไว้เกินความต้องการ จนทำให้สิ่งของเหล่านั้นขาดแคลน หากเราสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปัน เก็บไว้ใช้แต่พอดี ก็ย่อมเกิดสังคมที่ดีตามมา

ข้อมูลอ้างอิงจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ป๊งป๊งฉี~ ตรุษจีนแบบ New Normal ยังไงให้ห่างไกล Covid-19
กิจกรรมของครอบครัว
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save