fbpx

พ่อจ๋าแม่จ๋า รู้ไหมว่า 3 สิ่งที่หนูอยากพูดและอยากได้ในวันเด็กปี 2564 คืออะไร... ?

Writer : Lalimay
: 8 มกราคม 2564

ถึงแม้ว่าวันเด็กปีนี้จะไม่ได้มีการจัดงานเหมือนในทุกๆ ปี แต่ความสำคัญของเด็กทุกคนก็ไม่มีทางถูกลดทอนลงไป เพราะว่าพวกเขาจะเป็นคนที่กลายเป็นผู้ใหญ่และขับเคลื่อนสังคมไปในวันข้างหน้า วันนี้เราจึงมีผลสำรวจจากนิด้าและสสส. ว่าเด็กๆ อยากจะสื่อสารอะไรให้คนในครอบครัวที่เขารักผ่านสื่อออนไลน์ ในวันเด็กที่จะถึงนี้มากฝากค่ะ

โดยผลสำรวจนี้เป็นการสำรวจจากกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 11-18 ปี ทั่วประเทศจำนวน 2,972 คน เป็นเด็กชาย 39.7% เด็กหญิง 56.2% และเพศทางเลือก 4.1% ซึ่งเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถามออนไลน์ระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2563 –  5 มกราคม 2564 ดังนี้ค่ะ

3 สิ่งนี้ที่อยากบอก

อันดับที่ 1 หนูรักพ่อแม่นะ : เด็ก 48.46% อยากบอกรักพ่อแม่ หรือคนในครอบครัว ด้วยความห่วงใย และอยากให้รักษาสุขภาพ จะได้ห่างไกลโควิด-19

อันดับที่ 2 จะเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียน : เด็ก 20.54% อยากแสดงความตั้งใจและทำสัญญากับครอบครัว เช่น ตั้งใจว่าจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ จะเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ หรือไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เป็นต้น

อันดับที่ 3 ช่วยฟังหนูหน่อยได้ไหม : เด็ก 9.16% อยากใช้โซเชียลในการระบายความในใจ หรือสิ่งที่คิดว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจพวกเขา หรือสิ่งที่พวกเขาอึดอัดใจ และอยากให้พ่อแม่เข้าใจตนเองมากขึ้น เช่น อยากให้พ่อแม่ฟังความคิดเห็นของพวกเขาบ้าง หรือปล่อยให้พวกเขาได้ทำในสิ่งที่ต้องการ รวมถึงอยากให้พ่อแม่เข้าใจว่าโลกโซเชียลไม่ได้มีแต่ผลเสียเท่านั้น

3 ของนี้ที่อยากได้

  • อันดับที่ 1 โทรศัพท์มือถือ 31.54%
  • อันดับที่ 2 เงินค่าขนม 14.31%
  • อันดับที่ 3 คอมพิวเตอร์ 8.3%

นี่เป็นเพียงหมวดสิ่งของที่เด็กอยากได้เท่านั้น เพราะจริงๆ แล้ว สิ่งที่เด็กๆ อยากได้ในวันเด็กปีนี้ ก็คือ อยากให้พ่อแม่พาไปเที่ยว ซึ่งมีมากถึง 72.52% เลยทีเดียว นั่นแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าจะมีของขวัญมากมายขนาดไหน แต่สิ่งที่อยากได้มากไม่แพ้กัน คือ ให้เวลากับหนูหน่อย

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กำลังใจที่ไม่เคยสังเกต
ชีวิตครอบครัว
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save