fbpx

แก้ไปพร้อมกัน! 5 วิธีแก้ปัญหาลูกติดจออย่างได้ผล

Writer : Lalimay
: 14 สิงหาคม 2563

‘ลูกติดจอ’ คือปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆ ครอบครัว เป็นเพราะว่าเด็กในยุคปัจจุบัน หรือที่เรียกกันว่า ‘เจนอัลฟ่า’ เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี จึงทำให้เขาสามารถใช้งานสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตได้อย่างคล่องแคล่ว จนในบางครั้งเขาอาจจะเล่นมากเกินไปจนกลายเป็นติดหน้าจอ อีกสาเหตุหนึ่งก็อาจเกิดขึ้นจากพ่อแม่ที่เป็นคนหยิบยื่นหน้าจอให้แก่ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งการติดหน้าจอนั้นก่อให้เกิดผลเสียในหลายๆ ด้าน วันนี้เราจึงมีวิธีแก้ปัญหาลูกติดจอที่หากพ่อแม่ทำได้ก็จะเป็นการแก้ปัญหาอย่างได้ผลมาฝากค่ะ

ให้เวลาคุณภาพกับลูก

เวลาคุณภาพ เป็นคำที่คุณพ่อคุณแม่น่าจะได้ยินกันบ่อย นั่นคือการใช้เวลากับครอบครัวในการสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นนั่นเอง โดยเด็กที่ติดจอทั้งแท็บเล็ตและสมาร์ตโฟนนั้น ส่วนมากจะเกิดจากการที่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ จนใช้หน้าจอเป็นพี่เลี้ยง เพราะเห็นว่าลูกอยู่นิ่ง ไม่ซน ไม่มาก่อกวนเวลาที่เราทำงาน ดังนั้นอย่างแรกที่ควรทำคือการให้เวลาคุณภาพกับลูกอย่างแท้จริง แต่ไม่ใช่ว่ามานั่งอยู่ด้วยกัน แต่กลับทำอย่างอื่น ไม่สนใจลูก แบบนั้นไม่ถูกต้อง

ทางที่ดีคือใช้เวลาอยู่กับลูก และสนใจจริงๆ ว่าเขากำลังทำอะไร เล่นอะไร และเล่นเป็นเพื่อนลูก ไม่ต้องใช้เวลามาก เพียงครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง เพื่อแสดงให้เขาเห็นจริงๆ ว่านี่คือเวลาที่พ่อแม่ใช้กับลูกอย่างมีคุณภาพ แต่ถ้ายิ่งใช้เวลามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น

อีกวิธีหนึ่งคือ เมื่อมีเวลาอยู่ด้วยกันแล้ว เราอาจนำกล่องเปล่ามาตั้งไว้กลางบ้าน แล้วให้ทุกคนเอาสมาร์ตโฟนมาวางไว้ในช่วงเวลาของครอบครัว เพื่อที่แสดงให้ลูกเห็นว่า พ่อกับแม่พร้อมให้เวลากับลูกอย่างเต็มที่ พอทำไปนานๆ เข้า ลูกก็จดจำ และรอเวลาที่จะได้เล่นกับพ่อแม่ จนค่อยๆ ลดการใช้หน้าจอลงไปในที่สุด

กำหนดเวลาในการเล่นอย่างชัดเจน

กฎกติกา เป็นสิ่งที่ทุกบ้านจำเป็นจะต้องมี ไม่ว่าเราจะเลี้ยงลูกแบบเพื่อนหรือปล่อยให้เขาได้ลองทำอะไรตามใจตัวเองขนาดไหนก็ตาม เพราะถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะต้องรู้จักเคารพกฎและกติกาที่มีอยู่ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรต้องกำหนดเวลาในการเล่นสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตของลูกอย่างชัดเจน เช่น เล่นได้กี่ชั่วโมง เล่นได้ตอนไหน หรือต้องทำอะไรเสร็จก่อนถึงจะเล่นได้

โดยปกติแล้ว ในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรเล่นหน้าจอโดยเด็ดขาด ส่วนอายุ 2-3 ปี สามารถเล่นได้ไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง แต่ไม่ให้เล่นเลยจะเป็นการดีที่สุด และอายุ 3 ปีขึ้นไปสามารถเล่นได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวันเช่นกัน แต่ยิ่งเล่นน้อยยิ่งดีต่อพัฒนาการ ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่ควรจะนั่งเล่นอยู่กับลูก ห้ามปล่อยให้เขาเล่นคนเดียวโดยเด็ดขาด

ส่วนในเด็กวัยเรียนอาจจะกำหนดเป็นวันธรรมดากับวันหยุด เช่น วันธรรมดาเล่นได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง วันหยุดเล่นได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งพอครบเวลาแล้วต้องหยุดเล่นทันที หรือถ้าเกินก็จะมีการตัดโควตาของวันต่อไป โดยเราต้องเตือนลูกก่อนจะหมดเวลาสัก 15 นาที เพื่อให้เขาเตรียมตัวเลิกเล่น และเมื่อมีกฎกติกาแล้ว พ่อแม่ต้องห้ามใจอ่อน อาจดูเป็นกรณีตามความเหมาะสมได้ แต่ห้ามใจอ่อนแบบพร่ำเพรื่อ ไม่เช่นนั้นลูกก็จะคิดว่ากฎกติกาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยึดถือ

 

หากิจกรรมอย่างอื่นที่สนุกกว่าหน้าจอ

เด็กที่ติดหน้าจอ เป็นเพราะเขารู้สึกว่าในนั้นมีสิ่งที่สนุก และรวดเร็วทันใจ ดูการ์ตูนเรื่องนี้จบก็จิ้มเลือกเรื่องต่อไปได้อย่างรวดเร็ว หรือเล่นเกมในสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตก็สนุกสนาน อีกทั้งยังมีเกมมากมายให้เลือกสรร ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าการที่เด็กติดหน้าจอมากเกินไปมีผลเสียต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ของเขามากกว่าที่คิด และการที่เขาติดจออาจเพราะไม่รู้ว่ามีสิ่งที่สนุกกว่ารอเขาอยู่นอกจอ

ดังนั้น นี่จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องหากิจกรรมที่สนุกกว่า มาให้เขาลองทำ เพื่อดึงเขาออกมาจากหน้าจอให้ได้ โดยอาจเริ่มจากสิ่งที่เขาสนใจก่อนที่จะติดหน้าจอ เด็กบางคนอาจชอบเล่นปั้นแป้งโดว์มาก เราก็ชวนเขามาทำแป้งโดว์ DIY ด้วยกัน นั่นก็จะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ หรือพาเขาออกไปท่องเที่ยว สัมผัสธรรมชาติมากขึ้น พาไปทำกิจกรรมนอกเวลาต่างๆ เพื่อค้นหาตัวตนและความชอบ

ในช่วงแรกอาจต้องใช้เวลา แต่ถ้าเขาเริ่มสนุกกับกิจกรรมที่ทำ ก็ถือว่าคุณพ่อคุณแม่เริ่มประสบความสำเร็จแล้วล่ะค่ะ

 

พูดให้ลูกเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของสมาร์ตโฟน

สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตไม่ได้เป็นตัวร้าย แต่อยู่ที่คนใช้งานมากกว่า ว่าจะใช้งานได้อย่างถูกต้องมากแค่ไหน ซึ่งเด็กๆ ไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้มีไว้ใช้ทำอะไร เขารู้เพียงแต่ว่าพ่อแม่เป็นคนหยิบยื่น เอาไว้ให้เขาใช้เล่นเกม ดูการ์ตูน เมื่อพ่อแม่ไม่มีเวลา ฉะนั้นพ่อแม่จึงควรบอกลูกให้ชัดเจนถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้หน้าจอ ทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต

คุณพ่อคุณแม่อาจบอกลูกถึงข้อดีคือ เอาไว้ใช้ติดต่อสื่อสารในยามที่เราอยู่ห่างไกลกัน จะได้คลายความคิดถึง เราสามารถใช้สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตในการค้นหาข้อมูลข่าวสารที่ไม่เคยรู้มาก่อน ในบางครั้งก็ใช้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ใช้ดูหนัง ฟังเพลงและเล่นเกมได้ แต่ถ้าเกิดเราใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง คือ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไป ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ อย่างลูก อาจมีการยกตัวอย่างข่าวที่เคยเกิดขึ้น เพื่อทำให้ลูกเข้าใจและเห็นภาพมากขึ้นก็ได้

พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้จอ

เด็กมักเลียนแบบจากสิ่งที่เห็น เรามักได้ยินกันอยู่เสมอว่า ลูกคือกระจกสะท้อนเงาของพ่อแม่ พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกก็เป็นอย่างนั้น การที่ลูกติดหน้าจอ พ่อแม่ต้องลองย้อนกลับมาดูตัวเองเสียก่อน ว่าเรารึเปล่าที่เป็นสาเหตุทำให้ลูกกลายเป็นเด็กติดจอ เราเองรึเปล่าที่หยิบยื่นสมาร์ตโฟนไปให้เขา ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น พ่อแม่ก็คงต้องปรับแก้ที่ตัวเองก่อน คือเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตอย่างถูกที่ ถูกเวลา และใช้อย่างเหมาะสมให้ลูกเห็น

วิธีการง่ายๆ ที่ทุกบ้านสามารถทำได้ก็คือ พยายามใช้สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตต่อหน้าลูกให้น้อยที่สุด เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้เราต้องติดต่องานผ่านทางสมาร์ตโฟน แต่ถ้าอยากให้ลูกเลิกติดหน้าจอจริงๆ เราอาจต้องกำหนดเวลาในการใช้งานของเรา เช่น ใช้หลังลูกหลับ หรือถ้าเร่งด่วนก็ไปใช้ในจุดที่ลูกไม่เห็น อาจดูลำบาก แต่ก็เป็นวิธีที่ได้ผล หรือเวลาที่ทานข้าวก็ไม่ควรเล่นสมาร์ตโฟนเลย พอลูกเห็นบ่อยๆ เข้า เขาก็จะซึมซับเองว่าเวลาไหนควรหรือไม่ควรเล่น

และนี่ก็คือ 5 วิธีในการแก้ปัญหาลูกติดจอ ถ้าหากพ่อแม่ทำตามทั้งหมดนี้ได้ มั่นใจได้เลยว่าการเริ่มต้นแก้ไขปัญหาลูกติดจอก็จะค่อยๆ เห็นผลมากยิ่งขึ้นค่ะ

สนับสนุนโดย : กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

 

 

 

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
3 มกราคม 2563
เพราะแม่จะเป็นใครก็ได้
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
Live Action เรื่องล่าสุดจาก Disney ที่หลายๆคนรอคอยไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เคยรับชมการ์ตูนในวัยหวานหรือแม้แต่คุณน้องคุณหนูที่หลงรักโลกใต้ท้องทะเลก็ตาม ใช่แล้วล่ะค่ะ เรากำลังพูดถึง “The Little Mermaid” หรือ “เงือกน้อยผจญภัย” ที่หยิบยกกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชันคนแสดงในปีนี้ โดยมีนักร้องสาว “ฮัลลี เบลลีย์” รับบทนางเงือกน้อย “แอเรียล” พร้อมเป็นตัวแทนส่งเสียงบอกกับเด็กหญิงชายทั่วโลกว่า “ใครก็เป็นเจ้าหญิงได้”  หยิบกลับมาทำใหม่ ตีความใหม่ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อย ข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือไม่ ลองไปดูกันเลย! เรื่องราวของนางเงือกน้อยแสนซน “แอเรียล” ธิดาคนสุดท้องของราชาไตรตันเจ้าแห่งโลกใต้สมุทรเธอมีความหลงใหลในโลกมนุษย์และใฝ่ฝันว่าอยากจะเดินเหินอย่างผู้คนบนดินแม้พ่อจะพยายามกีดกันเธอเท่าไรก็ตาม วันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบกับ “เจ้าชายอีริค” และตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง เธอจึงได้ทำข้อตกลงกับแม่มดทะเล “เออซูลาร์” เพื่อแลกเสียงอันไพเราะกับขาอย่างมนุษย์โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชายไม่เช่นนั้นเธอจะกลับมาเป็นเงือกและกลายเป็นทาสของเออซูลาร์ตลอดไปการออกเดินทางทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่ฝันจึงได้เริ่มต้นขึ้น เติมเต็มหัวใจที่ยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำของวัยเยาว์ ส่งต่อความกล้าหาญให้หนูน้อยเชื่อมั่นในตัวเอง และสิ่งที่ฝัน จูงมือลูกรักไปดู “The Little Mermaid” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์! ชมตัวอย่าง : https://www.youtube.com/watch?v=AS0vop2rgFo การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป แม้จะมีเค้าโครงเรื่องหลักๆ มาจากการ์ตูนเงือกน้อยแอเรียลแบบต้นฉบับทั้งหมด แต่พอมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ทวีคูณความจริงจังให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมพื้นเพตัวละคร เสริมเนื้อเรื่องเพิ่มประเด็นให้มีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม จึงบอกได้ว่าเป็นเวอร์ชันที่ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กๆ เท่าไร ถึงอย่างนั้นเด็กๆก็ยังสามารถสนุกสนานกับกลิ่นอายของเทพนิยายชวนฝันเพลิดเพลินกับภาพบรรยากาศโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามสุดแสนจะแฟนตาซี รับประกันว่ากระตุ้นจินตนาการเรียกความตื่นตาตื่นใจจากเจ้าตัวน้อยแน่นอน เรื่องที่ต้องระวัง มีความรุนแรงและฉากน่ากลัว อย่างที่บอกไปว่า Live Action เวอร์ชันนี้ มีความดาร์ก ความสมจริงเพิ่มเข้ามา เรื่องความรุนแรงต่างๆ ฉากต่อสู้ ฉากปะทะ หรือหน้าตาของเหล่าสัตว์ร้ายใต้ทะเล อาจทำให้เด็กๆ ไม่สบายใจ หรือตื่นกลัวได้ แถมยังมีจังหวะตกใจ (Jump…
25 พฤษภาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save