fbpx

5 ข้อควรรู้ก่อนพาลูกน้อยไปว่ายน้ำ

Writer : nunzmoko
: 1 พฤศจิกายน 2560

ภาพจาก – ครูพายุสอนว่ายน้ำ

คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่าน อยากให้ลูกน้อยว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เล็กๆ เพราะเชื่อว่าการให้ลูกว่ายน้ำเป็นเร็ว ก็จะช่วยให้เขามีความเคยชินกับน้ำ ไม่กลัวน้ำ ซึ่งจะทำให้เด็กสามารถฝึกว่ายน้ำได้ง่ายในอนาคต แม้ว่าการว่ายน้ำจะถือเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์มาก แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยควรศึกษาหาข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนพาลูกน้อยลงว่ายน้ำ ไปดูกันค่ะว่า 5 ข้อควรรู้ก่อนพาลูกไปว่ายน้ำมีอะไรบ้าง

1. ความปลอดภัย

บริเวณสระควรมีผู้คุมที่ได้รับการอบรมเรื่องการปฐมพยาบาลคนจมน้ำ ซึ่งการพาเด็กเล็กไปว่ายน้ำต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามปล่อยเด็กให้เล่นน้ำคนเดียวหรือเล่นกับเด็กคนอื่นๆ เอง คุณพ่อคุณแม่ควรลงเล่นน้ำพร้อมกับลูก นอกจากจะสามารถดูแลลูกให้ปลอดภัยแล้วยังส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัวอีกด้วย ถ้าลูกเล็กมากๆ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ครูฝึกที่มีความเชี่ยวชาญในการสอนเด็กเล็กว่ายน้ำมาสอนเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยของเราค่ะ

 

2. ความสะอาดของสระ

ความสะอาดของสระว่ายน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะลูกอาจกลืนน้ำเข้าไปโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ถ้าสระไม่ได้มาตรฐานเรื่องความสะอาด เมื่อมีผู้แพร่เชื้อลงไปในสระ เชื้อโรคที่ออกมาทางน้ำมูกหรือน้ำลายก็ไม่อาจถูกทำลายโดยคลอรีนที่มีน้อยเกินไป ผู้รับเชื้อจึงอาจเป็นโรคติดต่อได้ เช่น หวัด ตาแดง อาเจียน หรือท้องร่วง ในทางตรงข้าม ถ้าใส่คลอรีนมากเกินไป ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องตาอักเสบหรือผิวหนังอักเสบจากสารเคมีได้

 

3. ลูกแพ้สารเคมีหรือไม่

คุณพ่อคุณแม่ควรเช็คให้ดีก่อนว่าลูกมีอาการแพ้คลอรีนหรือไม่ (สังเกตได้จากการเกิดผื่นแดงบริเวณผิวหนัง) ถ้าแพ้ควรหลีกเลี่ยงด้วยการพาลูกไปว่ายในสระที่เป็นระบบน้ำเกลือแทน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ให้ใช้วาสลีนหรือปิโตรเลียมเจลทาเคลือบผิวก่อนลงน้ำและอย่าเล่นน้ำนานเกินไป เมื่อขึ้นจากน้ำแล้ว ควรรีบล้างตัวเอาคลอรีนออกและอาบน้ำ เช็ดตัว เป่าผมให้แห้ง เพราะถ้าใส่ชุดที่เปียกแฉะตลอดเวลา ก็อาจทำให้เป็นเชื้อราหรือเกิดผื่นแพ้ได้

 

4. ระยะเวลาที่เหมาะสม

ในกรณีที่อุณหภูมิของน้ำในสระค่อนข้างเย็น เด็กเล็กไม่ควรเล่นนานเกินครึ่งชั่วโมง และเด็กโตไม่ควรนานเกิน 1 ชั่วโมง เพราะอุณหภูมิร่างกายอาจลดต่ำเกินไป จนทำให้ไม่สบายหรือเป็นหวัดได้ง่าย

 

5. การดูแลผิวหนังและเส้นผม

สารคลอรีนและแสงแดดมักเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมและผิวหนังถูกทำลาย อีกทั้งผิวหนังของเด็ก บอบบางและอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่มาก จึงควรให้การดูแลเป็นพิเศษ เช่น เลือกชุดว่ายน้ำที่ปกปิดผิวหนังและมีสารเคลือบป้องกันรังสี UVA และ UVB นอกจากนี้ควรทาครีมกันแดดแบบกันน้ำก่อนลงน้ำสระ และไม่ว่ายน้ำกลางแดดจ้า หากมีปัญหาผิวแห้ง ควรทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำ เพราะการเล่นน้ำหรืออาบน้ำบ่อยๆ อาจทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติจนทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น ส่วนการดูแลเส้นผม ถ้าผมยาว ควรมัดผมให้เรียบร้อยแล้วใส่หมวกด้วย จะช่วยป้องกันไม่ให้ผมเสียจากแสงแดด และหมวกจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมยุ่งหรือพันกันมากตอนอยู่ในน้ำ เวลาสระผม ควรใช้แชมพูของเด็กและใช้ครีมนวดผมด้วยเพื่อให้ผมลื่นไม่พันกัน เวลาสางผม ให้ใช้หวีซี่ใหญ่ เพื่อไม่ให้หนังศีรษะถูกดึงมาก และควรเป่าผมด้วยลมเย็น ไม่ใช่ลมร้อนค่ะ

 

 

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
4 พฤศจิกายน 2563
5 เคล็ดลับทำให้ลูกชอบกินผัก
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save