“ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ” ประโยคคลาสสิคที่คุณพ่อคุณแม่อย่างเราต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจ
ยิ่งเราห้ามไม่ให้เขาเล่น เขาก็จะยิ่งอยากเล่น เช่นเดียวกับการห้ามไม่ให้ลูกเล่นสื่อโซเชียลต่างๆ เพราะกลัวถึงอันตรายรอบๆ ตัวที่ลูกอาจรู้ไม่ทัน แต่ไม่เคยถามลูกเลยว่าพวกเขาต้องการแบบไหน
จะดีกว่าไหม ถ้าเราเปลี่ยนจากการห้าม มาเป็นการสอนให้เขารู้ทันอันตรายต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการใช้โซเชียล และสอนให้ใช้โซเชียลให้เป็น ไม่ปิดกั้นสิ่งต่างๆ ที่เด็กควรจะได้รู้ให้เหมาะกับช่วงวัย วันนี้ Parents One เลยขอเสนอ 7 ข้อดีของการสอนลูกให้รู้เท่าทัน ดีกว่าปิดกั้นสื่อออนไลน์ที่เหมาะสมกับเด็ก ไปอ่านกันเลยค่ะ
1. ช่วยกระชับสานสัมพันธ์ครอบครัว เมื่ออยู่ไกลกัน
เคยเป็นไหมคะคุณพ่อคุณแม่ที่เมื่อเราทำงานอยู่ดีๆ ก็คิดถึงลูกมากขึ้นซะงั้น ถึงขั้นอยากให้มีประตูวิเศษโดราเอมอน ที่พอเปิดปุ๊บก็เดินข้ามไปหาเจ้าตัวเล็กที่รออยู่ที่บ้านได้เลยเพราะการคิดถึงคนห่างไกล มักเป็นเรื่องที่ทรมานจริงๆ
การสอนลูกให้รู้จักใช้เทคโนโลยีให้มีประโยชน์จึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะช่วยกระชับสานความสัมพันธ์ของครอบครัว เมื่อต้องอยู่ไกลกันค่ะ
เช่น เมื่อคุณพ่อต้องเคลียร์งานตอนดึกๆ แล้วไม่ได้กลับบ้านเร็ว สิ่งเล็กๆ ที่สามารถกลายเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ของคุณพ่อให้มีแรงต่อสู้กับงานทั้งคืนคงหนีไม่พ้น การได้วิดีโอคอลเห็นหน้า ฟังน้ำเสียงของภรรยาและเจ้าตัวเล็กที่รออยู่ที่บ้าน แค่นี้คุณพ่อก็ชื่นใจแล้วค่ะ
2. เติมเต็มจินตนาการ พลังความคิดสร้างสรรค์ให้กับเจ้าตัวเล็ก
การปล่อยให้ลูกเล่นโซเชียลบ้างจะช่วยให้เจ้าตัวเล็กมีจินตนาการ และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์จากแอปวาดรูป หรือเกมที่ช่วยฝึกสมองต่างๆ ได้อย่างดี แต่คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดเวลาในการให้ลูกเล่นสื่อออนไลน์ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกรู้จักการแบ่งเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่มีประโยชน์บ้างนั่นเอง
3. สร้างลูกให้เป็นเด็กรอบรู้ ทันข่าวสารบ้านเมือง
เพราะโลกมันกว้างและหมุนเร็วขึ้นทุกวันด้วยอินเทอร์เน็ตและสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่มีคลังความรู้มากมาย เช่น เนื้อหาในเฟซบุ๊กซึ่งมีความหลากหลาย และตอบโจทย์ผู้ใช้แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมียูทูบคิดส์ที่มีคลิปต่างๆ ที่เหมาะสำหรับเด็ก ให้ดูกันเพลินๆ เสริมความรู้กันไปเลยค่ะ
ใครๆ ก็อยากให้ลูกเป็นเด็กฉลาด หัวเร็ว และรอบรู้ใช่ไหมล่ะคะ วิธีง่ายๆ ที่ช่วยสร้างและปลูกฝังให้เจ้าตัวเล็กเป็นเด็กรอบรู้ ทันข่าวสารบ้านเมือง นั่นก็คือ การให้เขาได้ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ฝึกเรียนรู้จากสื่อออนไลน์ที่เหมาะสมกับวัยนั่นเองค่ะ เพราะสื่อโซเชียลมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก เด็กๆ สมัยนี้จึงสามารถอัพเดตข่าวสารต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้วก็รู้ได้ว่า มีเหตุการณ์อะไรบ้างที่เกิดขึ้นมาแล้วนั่นเอง
4. ช่องทางสร้างรายได้ตั้งแต่เด็กๆ (ไอดอล, อินฟลูเอนเซอร์, ยูทูบเบอร์ตัวน้อย)
สื่อออนไลน์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ง่ายๆ ให้กับครอบครัว ยิ่งถ้าลูกของเราชอบการออกกล้อง และกล้าแสดงออก เป็นนักรีวิวสิ่งต่างๆ ยูทูบเบอร์ตัวน้อย
คุณพ่อคุณแม่อย่างเราก็ต้องช่วยสนับสนุนในสิ่งที่เขาชอบด้วยนะคะ อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หรือใช้คำที่ไม่ดี ไม่ส่งเสริม รวมทั้งไม่ให้กำลังใจลูก เพราะนั่นจะยิ่งสร้างรอยแผลเป็นในใจของเด็กที่ไม่มีวันลบหายนั่นเอง
ขอฝากคุณพ่อคุณแม่ไว้ว่า “เด็กจะทำสิ่งที่เขาชอบไม่ได้เลย หากขาดแรงสนับสนุนและแรงผลักดันจากครอบครัวที่เขารักมากนั่นเองค่ะ”
5. เป็นเครื่องย้อนเวลา ให้คิดถึงช่วงเวลาในความทรงจำต่างๆ
เวลาในสมัยนี้มักหมุนเร็วเสมอ เราจึงจำเป็นต้องใช้สื่อโซเชียลต่างๆ เป็นเครื่องย้อนเวลาที่คอยบันทึกโมเมนต์เหตุการณ์ที่น่าประทับใจไว้ให้ลูกดูเมื่อโตขึ้น ลูกจะได้รู้ว่าตัวเองหน้าตาน่ารักอย่างไรค่ะ และเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อตอนที่ลูกยังเด็กนั่นเอง
6. สานสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทได้ง่าย แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
เหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ เช่นเดียวกับโลกออนไลน์ที่กว้างใหญ่ ที่ไม่ได้มีแต่เสี่ยงอันตรายกับเด็ก เพราะบนโลกออนไลน์ก็มีข้อดีมากมายด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ลูกสามารถหาเพื่อนใหม่บนโลกออนไลน์ได้ง่าย หรือแม้แต่สามารถพูดคุยกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน ช่วยย่นระยะห่างของความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
จึงถือเป็นเรื่องดีที่เรายอมให้ลูกได้ใช้สื่อโซเชียลเป็นบ้าง เผื่อในกรณีฉุกเฉินเด็กๆ ก็ยังสามารถโทรหาคุณพ่อคุณแม่ได้นั่นเอง ถ้าคุณพ่อคุณแม่มั่นใจว่าเราสามารถสอนลูกได้ดี ปล่อยให้เขาได้ลองทำในสิ่งที่รัก อย่าปิดกั้นในสิ่งที่ลูกอยากทำเลยค่ะ
7. พ่อแม่รู้ทุกความเคลื่อนไหวของชีวิตลูกผ่านโซเชียลได้ง่ายขึ้น
พ่อแม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของลูกผ่านโลกโซเชียลได้ง่ายๆ ด้วยการดูลูกผ่านหน้าจอ หรืออาจจะเป็นทางนาฬิกา GPS ที่ติดตัวลูกอยู่เสมอก็ได้นั่นเองค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 7 ข้อดีของการปล่อยลูกใช้สื่อออนไลน์อย่างเหมาะสม สอนให้รู้ทัน ดีกว่าปิดกั้น ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ไว้ เพื่อเปิดโลกกว้างให้กับเจ้าตัวเล็กได้ทำในสิ่งที่อยากทำจริงๆ
แต่สิ่งสำคัญ คือ การอย่าให้ลูกอยู่กับหน้าจอนานเกินไป หากให้ลูกเล่นสื่อโซเชียลออนไลน์ก็ต้องรู้จักควบคุมและจำกัดเวลาในการดูหน้าจอของลูกด้วยนะคะ เพื่อป้องกันสายตาของลูกนั่นเอง
สนับสนุนโดย : กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์