fbpx

ทานแบบไหนฟันของลูกน้อยแข็งแรง

Writer : Taloei
: 18 พฤษภาคม 2565

ฟันที่ทำหน้าที่บดเคี้ยวสำหรับน้องๆ หนูๆ และคุณพ่อคุณแม่แล้ว อย่าลืมที่จะดูแลฟันของเราด้วยการแปรงฟัน การพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือนแล้ว การรับประทานอาหารและวิธีการทานก็เป็นส่วนสำคัญ ใช่ว่าจะสามารถทานได้ทุกอย่างแต่ต้องเป็นทานอย่างไรเพื่อที่จะบำรุงฟันของเราให้สามารถบดเคี้ยวกันได้อีกต่อไป วันนี้ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูสิ่งที่ควรรับประทานเพื่อบำรุงฟันและวิธีการทานแบบไหนที่ถนอมฟันของเรากัน

แคลเซียม

ทานอาหารที่มีแคลเซียม จะช่วยในเสริมสร้างกระดูกและฟัน หาได้จาก นม ไข่ เต้าหู้ ผักใบเขียว

 

วิตามินซี

ทานอาหารที่มีวิตามินซี จะช่วยในการรักษาเหงือกและฟัน หาได้จาก ผักสด ผลไม้สด ส้ม สับปะรด กะหล่ำปลี แครอท ผักคะน้า

 

วิตามินบี 2 

ทานอาหารที่มีวิตามินบี 2 ช่วยป้องกันมุมปากแตก ลิ้นอักเสบ หาได้จาก ถั่วลิสง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ รำ ธัญพืช ไม่ขัดสี เห็ด มะม่วง

 

ดื่มน้ำเปล่า

การดื่มน้ำให้เพียงพอ การจิบน้ำบ่อยๆ ช่วยให้ปากไม่แตกและไม่ส่งผลต่อการเกิดฟันผุ เพราะขณะที่ปากแห้งปากแตกจะส่งผลให้เชื้อโรคเจริญเติบโตในช่องปาก

 

นอกจากการทานสิ่งเหล่านี้จะช่วยบำรุงแล้ว ต้องมีอาหารบางประเภทที่จะต้องถูกลดไป เพราะอาหารบางประเภทเมื่อทานไปนานๆ และไม่ได้รับการดูแลทำความสะอาด ก็ทำให้เกิดปัญหาต่างๆในช่องปาก

อาหารที่มีน้ำตาลและแป้ง จะทำให้เกิดฟันผุ

ผลไม้รสเปรี้ยว น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลม จะกัดกร่อนของฟัน

การไม่ทานอาหารที่แข็งเกินไป เพราะการเคี้ยวของแข็งจะทำให้ช่องปากทำงานหนักและขากรรไกรทำงานหนัก ซึ่งจะไม่ดีต่อช่องปาก หรือทำให้ฟันบิ่น ฟันร้าว

 

ทั้งนี้ในการบำรุงฟันนอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อฟันแล้ว ควรแปรงฟัน รักษาความสะอาดในช่องปากให้ถูกต้อง และไปพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือนด้วยนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยมหิดล สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย

Writer Profile : Taloei

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save