fbpx

หัวนมแตก? ให้นมลูกไม่ได้ คุณแม่มือใหม่จะทำอย่างไรดี

Writer : OttChan
: 23 เมษายน 2563

คุณแม่มือใหม่หลายๆ ท่านคงเคยประสบปัญหาที่เจ็บหัวนมระหว่างให้นมลูกซึ่งบางครั้งเราอาจจะคิดว่าเป็นปกติเพราะถูกเจ้าตัวเล็กคอยดูดคอยกัดอยู่ตลอดแต่นับวันมันยิ่งเจ็บขึ้นไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดก็ไม่สามารถให้นมลูกได้เลย นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกถึงบาดแผลที่เราไม่ทันได้สังเกตหรืออาการหัวนมแตกนั่นเองค่ะซึ่งอาการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องน่าเขินอายเกินปรึกษาใครเพราะเป็นธรรมชาติของคุณแม่มือใหม่เกือบทุกคนที่ต้องพบเจอ และแบบนี้จะแยกออกได้อย่างไรว่าแค่เจ็บจากการระบมหรือเจ็บเพราะมันเป็นแผลแตก เรามาดูไปด้วยกันเลยค่ะ

อาการเจ็บจากหัวนมแตก

  • เจ็บ, แสบตรงหัวนม
  • มีอาการเลือดออกร่วมกับน้ำนม
  • หัวนมแข็งมีรอยแตกซิบ

สาเหตุที่ทำให้หัวนมแตก

การที่หัวนมของคุณแม่แตกนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุทั้งอาจจะมาจากพฤติกรรมของตัวคุณแม่และการดูดของลูกเองซึ่งสามารถแบ่งออกมาได้ดังนี้

  • อุ้มลูกดูดนมไม่ถูกตำแหน่ง
  • นมคัดเต้าจนลานนมแข็งทำให้ลูกอมถึงลานไม่ได้
  • ปากลุกครอบลานนมไม่มิด
  • ถอนหัวนมออกจากปากลูกทันทีโดยที่ลูกยังไม่ปล่อย
  • เช็ด,ล้างหัวนมบ่อยจนเกิดอาการผิวแห้ง
  • ใช้เครื่องปั๊มนมที่มีแรงดูดมากเกินไป

เมื่อพบแล้วว่ามีสาเหตุใดๆ บ้างก็ต้องรีบหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุดเพราะการให้นมของลูกนั้นยังคงต้องทำอยู่ทุกวันเพื่อให้เขาได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและอิ่มท้องอยู่เสมอ ดังนั้นหนทางแก้ไขหรือช่วยทุเลาอาการก็สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

  • ให้ลูกอมถึงลานนมแล้วจึงค่อยดูดนม
  • บีบ,นวดเต้าก่อนให้นมเพื่อช่วยให้เนื้อนมนิ่มขึ้นลูกจะได้ดูดถนัด
  • จัดท่าทางการอุ้มให้ลูกเข้าเต้ามากที่สุด คาง จมูก แก้มของลูกต้องชนเต้า
  • ย้ายข้างการให้นมหากรู้สึกเจ็บมากๆ ไม่ดันทุรังให้ต่อ
  • หลังให้นม บีบออกมา 2-3 หยด ทารอบหัวนมไว้ช่วยสมานแผล
  • บีบน้ำนมออกทุก 3 ชั่วโมงกันการคัดเต้าก่อนให้นมลูก

ข้อแนะนำ

กรณีที่อาการเจ็บปวดไม่ดีขึ้นหรือแผลแตกยังคงเป็นระยะยาว อาจต้องหยุดให้นมบุตรชั่วคราวและปรึกษาแพทย์เพื่อหาหนทางการให้นมที่เหมาะสมที่สุดเพราะหัวนมแต่ละคนมีขนาดรูที่กว้างแต่งต่างกัน ดังนั้นการพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยจึงเป็นทางเลือกที่ควรปฏิบัติเมื่อเจ็บมากๆ

ที่มา : pobpad.comrakluke, enfababy

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



จำเป็นไหม ที่คุณแม่ต้องอยู่ไฟ?
ข้อมูลทางแพทย์
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save