fbpx

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นภูมิแพ้ ดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

Writer : Jicko
: 28 พฤศจิกายน 2561

โรคภูมิแพ้เป็นโรคยอดฮิตเลยในช่วงนี้  ถึงแม้โรคนี้จะไม่ได้เป็นอันตรายกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มากนัก แต่เนื่องจากลูกในครรภ์รับออกซิเจนผ่านสายสะดือ หากคุณแม่มีอาการภูมิแพ้รุนแรง ออกซิเจนในเลือดต่ำก็มีผลต่อลูกในครรภ์เช่นกัน

ดังนั้นคุณแม่ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่และเป็นภูมิแพ้ต้องดูแลตัวเองให้มากๆ กว่าคนอื่นเลยนะคะ สังเกตอาการ และดูแลทั้งร่างกายและสิ่งแวดล้อมค่ะ เพื่อให้เด็กๆ เมื่อคลอดออกมาจะได้สมบูรณ์แข็งแรงด้วยนั้นเอง งั้นเรามาดูกันเลยค่ะว่า เมื่อคุณแม่เป็นภูมิแพ้ระหว่างตั้งครรภ์แล้ว ควรจะต้องดูแลป้องกันยังไงบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

  • จัดและทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ

บ้านเป็นสิ่งที่อยู่อาศัยที่เราอยู่นานที่สุด เพราะฉะนั้นต้องสะอาดที่สุด และอาการภูมิแพ้จะถูกกระตุ้นได้อย่างง่าย จากสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่อยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ถ้าให้ดีต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ และทำให้บ้านมีการระบายอากาศเข้ามาบ้าง และที่สำคัญยิ่งเปิดหน้าต่างให้ระบายอากาศและแดดส่องเข้ามาให้บ้านอยู่เสมอก็เป็นการกำจัดความชื้นภายในบ้านแถมแสงแดดยังฆ่าเชื้อโรคอีกด้วยนะคะ

 

  • ต้องซักผ้าห่มผ้านวมผ้าปูอยู่บ่อยๆ

เพราะเวลาส่วนใหญ่มากกว่า 1 ใน  3 ของชีวิตเราใช้ชีวิตอยู่บนเตียงซะส่วนใหญ่ จึงไม่ควรที่จะละเลยในเรื่องความสะอาดของเครื่องนอนต่างๆ เพราะเชื้อโรคต่างๆ มักอาศัยอยู่ตามรอยพับหรือรอยย่นของผ้าปูที่นอน ทั้งแบคทีเรียและเชื้อรา และมันก็มาจากเรานี่แหละ ทั้งเหงื่อยและน้ำลาย ถ้าไม่ทำความสะอาดเจ้าพวกไรฝุ่นต่างๆ ตัวการของอาการภูมิแพ้ก็จะทำให้คุณแม่ๆ ป่วยได้เหมือนกันค่ะ

 

  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือช่วยลดภูมิแพ้

การล้างจมูก เป็นการทำความสะอาดโพรงจมูกโดยการใส่หรือหยอดน้ำเข้าไปในจมูก เพื่อชะล้างสิ่งต่างๆ ทำให้โพรงจมูกสะอาด หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังช่วยลดการสัมผัสการก่อการแพ้ที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ด้วยนั้นเองค่ะ

 

  • หลีกเลี่ยงการใช้ของที่มีสารเคมี

สารเคมีตัวอันตรายเป็นตัวการหลักในการกระตุ้นให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญสารเคมี อย่างเช่น น้ำหอมต่างๆ ก็เป็นสารเคมีที่อันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่เอง และพัฒนาการลูกในครรภ์ที่ได้รับด้วย สารเคมีที่พบบ่อยๆ เช่น สีทาบ้าน กลุ่มยารักษาสิว ครีมต่างๆ สารหนูที่ปนเปื้อนในผักผลไม้ เป็นต้น คุณแม่ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่หลีกเลี่ยงสิ่งไหนได้ ควรหลีกเลี่ยงเลยนะคะ

 

  • ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ

การเปิดเครื่องปรับอากาศบ่อยๆ ใช้งานครั้งละนานๆ จะทำให้ตัวเครื่องและแผ่นกรองอากาศที่อยู่ภายในมีการสะสมของเชื้อโรคและฝุ่นละอองมากมาย ซึ่งการไม่ล้างหรือไม่ทำความสะอาดเลยก็เป็นการลดประสิทธิภาพของแอร์แทนที่จะอากาศสดชื่น กลับมีฝุ่นเยอะแยะเต็มไปหมด ทำให้เชื้อโรคหมุนเวียนอยู่ภายในห้อง จนทำให้ไปกระตุ้นภูมแพ้ เป็นสาเหตุของอาการของโรคภูมิแพ้ในที่สุดนั้นเองค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องทำความสะอาด อย่างน้อยเป็นประจำ ทุก 6 เดือน นะคะคุณแม่ๆ

 

  • จำกัดพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยง

คุณแม่ๆ ที่เป็นภูมิแพ้จะมีอาการไวต่อสิ่งกระตุ้นเอามากๆ โดยเฉพาะฝุ่นและขนสัตว์ ดังนั้นบ้านไหนที่เลี้ยงสัตว์ที่คลุกคลีกับคนมากๆ ถ้าเกิดมีคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ในบ้านแล้วเป็นโรคภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงเลยนะคะ ควรแยกเจ้าสัตว์เลี้ยงต่างๆ ให้อยู่นอกบ้านเลยเป็นดีที่สุดค่ะ เพราะขนของมันเนี่ยจะติดตามข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านและทำให้คุณแม่ๆ มีอาการภูมิแพ้ในสุดนั้นเองค่ะ

 

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่

โดยเฉพาะผักและผลไม้ โดยส่วนมากเราก็รู้อยุ่แล้วนะคะว่าผักและผลไม้มีประโยชน์มากมาย สำหรับคุณแม่ที่มีอาการโรคภูมิแพ้ก็เช่นกันค่ะ โดยเจ้าผักและผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระ หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยปรับสภาพร่างกายให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และลดการอักเสบซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำเริบของอาการภูมิแพ้นั้นเองค่ะ

 

  • พักผ่อนให้เพียงพอ

จะเห็นได้ว่าคนที่ออกกำลังกายคือคนที่มีสุขภาพดี คุณแม่ๆ ที่เป็นภูมิแพ้ก็เช่นกันค่ะ อาการภูมิแพ้ไม่สามารถป้องกันได้หากเป็นจากพันธุกรรม แต่การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยทำให้มีอาการภูมิแพ้ที่น้อยลงนั้นเองค่ะ

 

  • ออกกำลังกายและดูแลสุขภาพอยู่เสมอ

สำหรับคุณแม่ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์นี่ก็เป็นอีกทางนึงที่สามารถลดอาการภูมิแพ้ได้นั้นก็คือการออกกำลังกายนั้นเอง ซึ่งการออกกำลังกายเป็นการเผาผลาญพลังงานในร่ากายที่ดีขึ้นทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี เป็นการรักษาสมดุลและการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หากร่างกายแข็งแรงแล้วคุณแม่ๆ ก็จะสามารถรับมือกับเจ้าอาการภูมิแพ้ได้นั้นเอง แต่ยังไงก็ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหมนะคะ เพราะคุณแม่ๆ กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นเองค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : honestdocs, konthong

 

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



วิธีการสอนให้ลูกรับมือกับความผิดหวัง
เตรียมตัวเป็นแม่
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save