fbpx

6 วิธีรับมือกับความเครียด เมื่อคุณแม่เห็นชีวิตที่ดีกว่าในโลกโซเชียล

Writer : giftoun
: 1 ตุลาคม 2562

ในยุคที่เหล่าคุณแม่นั้นเล่นอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย นอกจากจะใช้หาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกแล้ว ยังใช้โพสต์รูปลูกและชีวิตดีๆ อีกด้วย บางครั้งคุณแม่อาจมีความเครียดหรือกังวลเมื่อเห็นชีวิตของคุณแม่คนอื่นก็เป็นได้ แล้วคุณแม่จะมีวิธีรับมือกับความเครียดได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

วางมือถือลงบ้าง

ถ้าเปิดว่าคุณแม่นั่งไถฟีดในมือถือแล้วเครียดแล้วละก็ ลองวางมือถือลงแล้วทำอย่างอื่นบ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้เบี่ยงเบนจุดสนใจออกจากหน้าจอที่คุณแม่ดูแล้วรู้สึกเครียดได้บ้างก็ยังดีค่ะ

ชมตัวเองบ้าง

ส่วนหนึ่งที่คุณแม่รู้สึกเครียดอาจเป็นเพราะพอดูโลกในโซเชียลแล้วคิดว่าตนเองยังไม่ดีพอก็เป็นได้ การที่คุณแม่ชมตัวเองบ้าง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ทำงานบ้านเสร็จ ลูกเข้านอนเร็ว เป็นต้น ก็เป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจคุณแม่ได้เป็นอย่างดีค่ะ

ไม่เปรียบเทียบ

เป็นธรรมดาเมื่อคุณแม่เห็นโพสต์ของคุณแม่ด้วยกันแล้วเกิดการเปรียบเทียบ ยิ่งเป็นคุณแม่ที่มีลูกวัยใกล้เคียงกันหรือทำอาชีพคล้ายกันแล้ดูชีวิตดีกว่าแล้วยิ่งทำให้คุณแม่เครียดง่ายขึ้น ทั้งที่จริงแล้วคุณแม่แต่ละคนก็มีดีไม่แพ้กันเลย อีกทั้งเบื้องหลังใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขบนโลกโซเชียลของคุณแม่นั้น ย่อมเคยผ่านช่วงเวลาแย่ๆ เคยโกรธ เสียใจ ร้องไห้ทั้งนั้น ดังนั้นอย่าเปรียบเทียบชีวิตของตนเองกับคุณแม่คนอื่นเลยค่ะ

เล่นกับลูกมากขึ้น

บางทีสิ่งที่คุณแม่รู้สึกเครียดเมื่อเล่นโซเชียลนั้นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณแม่นั้นอยู่หน้าจอมือถือมากเกินไปก็เป็นได้ ถ้าคุณแม่ได้มีโอกาสทำอย่างอื่นมากขึ้นอย่างเช่นการเล่นกับลูกมากขึ้นก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แถมผูกพันกับลูกมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

ภูมิใจในตัวเอง

ในแต่ละวันที่ผ่านไปได้ ชีวิตของความเป็นแม่นั้นผ่านอะไรมาไม่ใช่น้อย อาจจะมีช่วงความยากลำบากอยู่บ้างหรือ แต่เชื่อเลยว่าไม่แพ้คุณแม่คนอื่นแน่นอน คุณแม่ควรจะภูมิใจในตนเองได้แล้วค่ะ จะช่วยลดความเครียดไปได้เยอะเลยทีเดียวนะคะ

ปรึกษาหมอ

ถ้าคุณแม่มีความเครียดจนเกินจุดที่คุณแม่รับมือไม่ไหวแล้ว การไปหาหมออาจจะถือเป็นทางออกที่ดีก็เป็นได้ค่ะ

นอกจากโลกบนหน้าจอแล้ว ถ้าคุณแม่ได้ลองมาสนใจโลกในชีวิตจริงมากขึ้น เช่น ไปดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย เล่นและพูดคุยกับลูกมากขึ้น ลองทำดูสักเดือน คุณแม่น่าจะเครียดน้อยลงและสบายใจค่ะ

ที่มา – เข็นเด็กขึ้นภูเขา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



รวมกิจกรรมช่วงปิดเทอมสำหรับลูก
กิจกรรมของครอบครัว
12 ข้อดีจากการให้นมแม่
เตรียมตัวเป็นแม่
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save