fbpx

ปลอดภัยไว้ก่อน ฝีดาษลิงคืออะไร? ครอบครัวจะป้องกันอย่างไรได้บ้าง?

: 25 กรกฏาคม 2565

สืบเนื่องจากข่าวการติดเชื้อของฝีดาษลิงที่คุณพ่อคุณแม่คงเป็นกังวลกันอยู่ไม่น้อย เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยและครอบครัว เรามาทำความรู้จักกับโรคฝีดาษลิง ลักษณะของผื่น การติดต่อและการป้องกันกันดีกว่าค่ะ

โรคฝีดาษลิง หรือไข้ทรพิษลิงนั้นอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับไวรัสโรคไข้ทรพิษ (Smallpox) ส่วนมากมักพบในสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะอย่างหนู กระรอก กระแต โรคฝีดาษลิงนับเป็นโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน (Zoonotic Diseases) ซึ่งสามารถแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คน และคนสู่คนได้เหมือนโรคฉี่หนู และโรคพิษสุนัขบ้า

ฝีดาษลิงนั้นมี 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ West African ที่มีความรุนแรงน้อยกว่า และสายพันธุ์ Central African ที่มีความรุนแรงถึงชีวิตมากกว่า

ฝีดาษลิงเป็นเชื้อไวรัส มีอาการคล้ายอีสุกอีไส มีอาการดังนี้ค่ะ:

  • มีผื่นและตุ่มขึ้นตามใบหน้า ตา ปาก ศีรษะ ลำตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า อวัยวะเพศและรอบทวารหนัก
    • ลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด
  • มีไข้ หรือมีประวัติว่ามีไข้
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลัง 
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

โรคฝีดาษลิงติดเชื้อได้อย่างไร?

  • การสัมผัสใกล้ชิดผ่านผิวหนัง ใบหน้า ริมฝีปากสู่ผิวหนัง
  • สัมผัสตุ่มหนองและสารคัดหลั่งจากตุ่มหนอง
  • การไอจาม
  • สัมผัสพื้นผิวที่ผู้ติดเชื้อสัมผัส อาทิเช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน สิ่งของต่าง ๆ โถสุขภัณฑ์

เราสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้อย่างไรบ้าง?

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนผิวหนัง การหอม การจูบ รวมทั้งเพศสัมพันธ์
  • ไม่นำมือไปสัมผัสผื่น ตุ่ม หนองของผู้เสี่ยงติดเชื้อ
  • ล้างมือให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป เพราะเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นเชื้อที่มีโปรตีนหุ้ม สามารถถูกทำลายได้ด้วยแอลกอฮอล์
  • ทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ เสื้อผ้า และเครื่องนอนเป็นประจำ
  • ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อในละอองฝอยขนาดใหญ่

ถึงแม้ว่าฝีดาษลิงจะแพร่ติดเชื้อได้ยากกว่าโควิด-19 แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรประมาท และคอยสังเกตอาการตนเองและลูกน้อยด้วยนะคะ

Parents One ขอให้ทุกครอบครัวปลอดภัย ปราศจากโรคค่ะ 💕

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



แม่จ๋า! น้ำร้อนลวกหนู ทำอย่างไรดี
ข้อมูลทางแพทย์
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save