fbpx

New Normal พฤติกรรมใหม่ที่อาจเกิดขึ้นของเด็กๆ ในยุคโควิด

Writer : nunzmoko
: 5 พฤษภาคม 2563

หลังจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้เกิดพฤติกรรมหรือลักษณะการใช้ชีวิตปรับเปลี่ยนไป ซึ่งเด็กเล็กตกเป็นกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เพราะภูมิต้านทานยังน้อยทำให้มีการตั้งข้อสังเกตถึง New Normal (ความปกติใหม่) ซึ่งหมายถึงพฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งจากการระบาดของโควิด-19 ก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าเด็กๆ จะมีพฤติกรรมใหม่อะไรเกิดขึ้นบ้าง ตามไปดูกันค่ะ

การเรียนออนไลน์ Learn from home

เปลี่ยนระบบการเรียนการสอนออนไลน์ รองรับสถานการณ์ Learn from home เนื่องจากโรคระบาดในเด็กเล็กวัยอนุบาล และประถมศึกษามักติดต่อกันอย่างรวดเร็ว เพราะต้องใช้เวลาเรียนในห้องนานๆ และนั่งติดกับเพื่อนๆ เป็นไปได้ว่าช่วงโควิดนี้จะทำให้เด็กๆ ต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน

การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เด็กๆ ยุคใหม่เรียนรู้การใช้สื่อออนไลน์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องระวังระวังการใช้งาน โดยมีกรอบเวลาในการใช้งาน และสังเกตพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของเด็กๆ

เว้นระยะทางสังคม รู้จักการรอคิว

เว้นระยะห่างทางสังคมยังคงเป็นสิ่งที่ต้องทำแม้จะหมดช่วงระบาดของโควิดแล้ว โดยในช่วงเวลาปล่อยพักของเด็กแต่ละชั้นไม่ควรพักพร้อมกัน เพื่อลดความแออัดของโรงอาหาร และสอนให้เด็กๆ รู้จักการเข้าคิว รอคิวเวลาจะซื้ออาหาร เพื่อความปลอดภัย

สวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าเรียน-สอบ

ในช่วงที่กลับเข้าไปที่โรงเรียน เด็กๆ ทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าชั้นเรียนหรือสอบทุกครั้ง

เน้นกิจกรรมกลางแจ้งมากกว่าในห้องเรียนปิด

ลักษณะของกิจกรรมกลางแจ้งก็ยังสำคัญต่อพัฒนาการและพฤติกรรมของเด็ก เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาส และเห็นว่าไม่ได้สุ่มเสี่ยงมาก ก็ควรให้โอกาสลูกได้ไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งดีกว่ากระจุกตัวอยู่แต่ในห้องเรียนแบบปิดหรือห้องเรียนในห้องแอร์ค่ะ

รักษาความสะอาดในทุกสัมผัส

เด็กๆ มีการซึมซับการดูแลความสะอาดไปมากแล้วหลังจากเกิดโรคระบาด ซึ่งต่อไปการปลูกฝังให้เด็กๆ ทุกคนให้รู้จักดูแลสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้การล้างมือที่ถูกวิธี การพกเจลแอลกอฮอล์ การระมัดระวังความสะอาดการทานอาหารนอกบ้าน

เนื่องจากการพัฒนาวัคซีนคาดว่าจะกินเวลานาน การดูแลความปลอดภัยในด้านสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องใส่ใจลูกๆ ตามมาด้วยสุขภาพจิตใจเนื่องจากกักตัวในบ้านเป็นเวลานานไม่มีปฎิสัมพันธ์กับสังคมภายนอก

หากพ่อแม่เริ่มสังเกตว่าลูกเริ่มมีพัฒนาการและพฤติกรรมที่ผิดปกติจากวัยของเขา ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อที่แพทย์จะได้ช่วยประเมินและกระตุ้นพัฒนาการให้กับเด็กๆ แต่ละคนอย่างเหมาะสมค่ะ

ที่มา :

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save