fbpx

พ่อแม่ต้องรู้! พัฒนาการจับดินสอของเด็ก ไขข้อสงสัยทำไมลูกจับดินสอแปลกๆ?

Writer : Lalimay
: 24 กันยายน 2563

คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตการจับดินสอของลูกไหมคะ ว่ามีลักษณะแบบไหนบ้าง หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมลูกถึงจับดินสอแปลกๆ นั่นเป็นเพราะแต่ละช่วงวัยมีการพัฒนาในการจับดินสอที่แตกต่างกันนั่นเองค่ะ วันนี้เราจึงมีพัฒนาการจับดินสอของเด็กมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่า

อายุ 1 – 1.5 ขวบ : Power Grasp

อุปกรณ์การเขียนที่เหมาะสม : สีเทียนด้ามอ้วน

ในช่วงอายุนี้เด็กๆ ยังพัฒนากล้ามเนื้อมือได้ไม่เต็มที่ ยังควบคุมน้ำหนักมือได้ไม่ดี โดยในช่วงวัยนี้อุปกรณ์การเขียนที่เหมาะสมก็คือสีเทียนด้ามอ้วน เพราะทำให้จับถนัดมือและทนต่อแรงกดได้ดีกว่าดินสอหรือปากกาด้ามผอม ดังนั้นเด็กวัยนี้จึงจับสีเทียนที่ใช้ในการเขียนด้วยการกำมือเป็นท่าแรกเริ่ม เพราะจะควบคุมการเขียนได้ง่าย เวลาเขียนก็จะขยับไปทั้งท่อนแขน มีการงอของข้อมือ ซึ่งการจับแบบนี้จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และความมั่นคงของข้อมือ 

 

อายุ 2 – 3 ขวบ : Immature Pronated Grasp

อุปกรณ์การเขียนที่เหมาะสม : ดินสอลักษณะสามเหลี่ยม

สำหรับช่วงอายุนี้ เด็กๆ จะพัฒนากล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้นแต่ก็ไม่ได้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในช่วงวัยนี้อุปกรณ์การเขียนที่เหมาะสมก็สามารถใช้ดินสอได้แล้ว แต่ก็ควรเป็นดินสอที่มีด้ามใหญ่สักหน่อย ถ้าเป็นแบบสามเหลี่ยมก็อาจทำให้จับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเด็กในวัยนี้จึงจับดินสอโดยใช้ทั้งนิ้ว และใช้ข้อมือคว่ำ หัวแม่มือและนิ้วชี้ชี้ลงไปที่กระดาษ ไม่มีช่องว่างระหว่างนิ้ว เวลาเขียนก็ยังคงขยับแขนทั้งท่อน ซึ่งการจับแบบนี้จะช่วยพัฒนาความมั่นคงของข้อมือ และทำให้รับรู้สัมผัสของการใช้มืออย่างแผ่วเบา

 

อายุ 3.5 – 4 ขวบ : Less Mature Static Tripod / Static Quadripod

อุปกรณ์การเขียนที่เหมาะสม : ดินสอธรรมดา

ต่อมาคือช่วงอายุ 3.5 – 4 ขวบ เด็กๆ เริ่มจับดินสอได้ดีขึ้นแล้ว มีความมั่นคงมากขึ้น เริ่มจับดินสอในท่าเกือบถูกต้อง แต่ว่าจะมีช่องว่างในการจับระหว่างโคนนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้อาจแคบ เลยทำให้นิ้วเรียงตัวแปลกๆ ซึ่งในช่วงวัยนี้จะจับดินสออยู่ 2 ท่าหลักๆ คือ ใช้ 3 นิ้วและใช้ 4 นิ้วในการจับ และยังคงเขียนโดยเคลื่อนไหวทั้งแขนอยู่ดี สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนก็สามารถใช้ดินสอปกติได้เลย โดยการจับแบบนี้จะช่วยพัฒนาความแม่นยำของมือในการหมุนตำแหน่งการวาดหรือเขียน นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาการควบคุมกล้ามเนื้อแบบแยกส่วน ของนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อยอีกด้วย

 

อายุ 4.5 – 6 ขวบ : Mature Dynamic Tripod / Dynamic Quadripod

อุปกรณ์การเขียนที่เหมาะสม : ดินสอธรรมดา

ช่วงอายุ 4.5-6 ขวบ เป็นวัยที่สามารถจับดินสอได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และเด็กจะควบคุมน้ำหนักมือได้ดีขึ้น เวลาเขียนจะไม่รู้สึกเมื่อยนิ้ว ข้อมือ หรือท่อนแขนทำให้ลูกเขียนหนังสือหรือวาดรูปได้ดี ซึ่งท่าทางที่เหมาะสมคือ การจับดินสอด้วยปลายนิ้ว หัวแม่มืออยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับนิ้วชี้หรือนิ้วกลาง และหัวแม่มีมีความมั่นคง เรียงกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง โดยบางคนอาจจะใช้ 4 นิ้วในการจับดินสอก็ได้

แต่การจับด้วย 3 นิ้วจะมีประสิทธิภาพมากกว่าทำให้การเขียนมีความรวดเร็วและแม่นยำ

 

ท่าจับดินสอที่ไม่เหมาะสมส่งผลให้ลูกไม่อยากเขียนได้

จริงๆ แล้ว การจับดินสอไม่มีมีถูกหรือผิด เพียงแค่วาดหรือเขียนได้อย่างถนัดก็พอ แต่ถ้าลูกรู้สึกเมื่อหรือไม่ยอมเขียนหนังสือ เมื่อถึงช่วงวัยที่เหมาะสมก็อาจต้องมาดูว่าสาเหตุเกิดจากการจับดินสอรึเปล่า เพราะการจับดินสอที่ไม่ถูกต้องจะทำให้เด็กออกแรงมากหรือน้อยเกินไปในการเขียน ซึ่งจะส่งผลให้การเขียนไม่มีประสิทธิภาพ  จนรู้สึกปวดเมื่อยแขน ข้อมือ และล้าง่าย เพราะการเขียนผิดท่า บางทีอาจเกิดตุ่มพองเพราะการเสียดสีในบางนิ้ว และท้ายที่สุดทำให้ไม่อยากวาดรูปหรือเขียนหนังสือ

ข้อมูลอ้างอิง

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
7  วิธี พิชิตการทานยากของเด็ก
ชีวิตครอบครัว
7 สิ่งที่เด็กวัย 2 ขวบทำเก่ง
ช่วงวัยของเด็ก
9 วิธีแก้ทางเด็กดื้อเด็กซน
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save