fbpx

รู้จัก Pre Writing Skill ลูกอายุเท่านี้ขีดเขียนได้แบบไหนกันนะ

Writer : Mneeose
: 6 พฤษภาคม 2564

ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะเริ่มเขียนตัวอักษรจนคล่องได้นั้น อวัยวะที่ต้องผ่านฝึกฝน และทำเป็นประจำเลย นั่นก็คือ กล้ามเนื้อมัดเล็ก ที่ไล่ตั้งแต่ข้อมือลงมาจนถึงนิ้วมือ เพื่อให้สามารถบังคับทิศทางในการเขียนตัวอักษรต่างๆ ได้อย่างตามใจ ทั้ง ก ข ค ง หรือจะเป็น A B C D ก็ไม่มีปัญหาค่ะ

ซึ่ง Pre Writing Skill จะเริ่มตั้งแต่เด็กที่มีอายุ 1-5 ปี ซึ่งเป็นวัยก่อนเรียน (Pre-school child) แต่ไม่ใช่การบังคับให้เด็กเขียนหนังสือนะคะ ที่ต้องเป็นเด็กวัยนี้ก็เพราะว่า สมองของเด็กจะมีพัฒนาการด้านต่างๆ ได้ไวที่สุด และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อแสดงความต้องการ ช่างสังเกต ช่างจดจำ และช่างซักถามนั่นเอง

ดังนั้น ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะเขียนตัวอักษรได้คล่อง จะต้องมีการขีดเขียนเป็นรูปทรงต่างๆ ก่อนนั่นเอง และที่สำคัญ จะต้องแยกประสาทในการควบคุมมือ และตาที่ต้องประสานงานกันอย่างดีด้วย จึงจะทำให้เด็กๆ ทำกิจกรรมได้อย่างสนุกสนาน และไม่กดดัน เช่น การวาดภาพ ระบายสีตามจินตนาการ และยังทำให้การเขียนมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

อย่ารอช้า!! เราขอพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความรู้จักกับ Pre Writing Skill ลูกอายุเท่านี้ขีดเขียนได้แบบไหนกันนะ ไปดูกันเลยค่ะ

รูปทรงที่เด็กๆ มักจะวาดได้ในแต่ละวัย

  • อายุ 1 – 2 ปี : ขีดเส้นยุ่งเหยิง
  • อายุ 1.5 – 2 ปี : ขีดเส้นตรงแนวตั้ง
  • อายุ 2.5 ปี : ขีดเส้นตรงแนวนอน, รูปทรงกลม
  • อายุ 3 ปี : ขีดเส้นตรงแนวตั้ง, เส้นตรงแนวนอน และรูปทรงกลมได้
  • อายุ 3 – 3.5 ปี : สามารถเลียนแบบการวาดรูปบวก
  • อายุ 4 – 4.5 ปี : เลียนแบบการวาดรูปเครื่องหมายบวกบวก, สี่เหลี่ยมจตุรัส, วาดเส้นทะแยงซ้ายและขวาได้
  • อายุ 5 ปี : วาดรูปสามเหลี่ยม และกากบาทได้

คุณพ่อคุณแม่ต้องอย่าเร่งลูกเขียนตัวอักษรให้เป็นก่อนวัยที่ควรจะเป็นนะคะ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ให้ลูกได้จับเล่นขีดเขียน และคุ้นเคยกับดินสอสีแท่งโปรดก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรยากแล้วค่ะ

โดยอาจจะเริ่มจากการทำเส้นประให้ลูกค่อยๆ เขียนตาม แล้วค่อยๆ เปลี่ยนให้ลูกลองดูมือของคุณพ่อคุณแม่เขียน แล้วให้ลูกเขียนตาม

ในช่วงแรกลูกอาจจะเขียนไม่ตรงบ้าง นอกเส้นบ้าง ก็ต้องใจเย็นๆ อย่าโมโห หรืดุลูกไปเลยค่ะ มาช่วยกันฝึกให้เจ้าตัวเล็กมีกล้ามเนื้อมัดเล็กที่แข็งแรง และมีประสิทธิภาพกันนะคะ เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกมีพื้นฐานที่ดีในการเขียนหนังสือต่อไปในอนาคตนั่นเอง

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : Wellkids.th

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กำลังใจที่ไม่เคยสังเกต
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save