fbpx

NEWS: เด็กไทย 13 ล้านคนติดมือถือหนัก สนใจโลกออนไลน์จนหลงลืมคนในครอบครัว

Writer : Lalimay
: 16 สิงหาคม 2561

จากงานเสวนา “พิทักษ์เด็ก พิทักษ์อนาคตชาติ ด้วยสังคมก้มหน้าได้จริงหรือ” ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดียของคนในครอบครัวที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ จึงต้องพูดคุยให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครองได้เกิดการรับรู้และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการเลี้ยงดู ให้อยู่ในสังคมโซเชียลมีเดีย นำไปใช้ให้ถูกทางและเกิดประโยชน์ ให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นอนาคตของชาติอย่างมีคุณภาพ

พิภพ ธงไชย เลขาธิการมูลนิธิเด็ก กล่าวว่า ตอนนี้เป็นยุคที่สังคมถูกย่อขนาดให้อยู่ในสมาร์ทโฟนที่สะดวกสบาย พบว่ามีกลุ่มเด็กและเยาวชนกว่า 13 ล้านคน ที่ก้าวเข้าสู่สังคมก้มหน้า ติดเกม เสพความบันเทิง หรืออื่นๆ นำไปสู่ปัญหาสมาชิกในครอบครัวสนใจสิ่งที่อยู่ในโลกออนไลน์ แม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน จนทำให้เกิดภาวะพลัดพรากซึ่งๆ หน้า

อีกทั้งข้อมูลจากทางสำนักสถิติแห่งชาติปี 2560 พบว่าในประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป มีการใช้มือถือร้อยละ 88.2 คอมพิวเตอร์ 52.9 และอินเตอร์เน็ต 30.3 โดยในกลุ่มอายุ 6-14 ปี ใช้ 60% อายุ 15-24 ปี ใช้ถึง 80% ซึ่งถือว่ามากที่สุดในกลุ่ม และในกลุ่ม 25-34 ปี วัยที่เป็นพ่อและแม่ ใช้ถึง 60%

โดยผู้ที่เป็นพ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกให้อยู่กับเทคโนโลยีได้ แต่ก็ต้องคอยดูอยู่ใกล้ๆ ด้วย เพื่อให้คำแนะนำสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในโซเชียล เพื่อให้เด็กได้รู้จักสิ่งที่ถูกสิ่งที่ผิด และไม่นำไปลอกเลียนแบบ ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกด้วย

พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เจ้าของเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สัมพันธภาพที่ดีของครอบครัวจะต้องสร้างตั้งแต่เด็กเกิดมา โดยใช้หลัก 2 ร. คือ ร.ความรัก แต่ต้องไม่รักจนขาดสติ ต้องมีเหตุผล เพื่อให้เด็กรู้จักควบคุมความต้องการ ไม่เกิดอาการก้าวร้าว โวยวาย ส่วนอีก ร. คือ ร.ระเบียบ ควรสอนให้ลูกมีระเบียบวินัยตามช่วงวัยที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 ร. ต้องสมดุลกัน เพื่อทำให้ลูกเชื่อฟังมากขึ้น

อ้างอิงจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save