fbpx

ทำไมคุณแม่ถึงควรฝึก "ISR" เทคนิคสอนว่ายน้ำให้เด็กเล็ก

Writer : nunzmoko
: 18 เมษายน 2562

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำภายในบ้านหรือเวลาพาลูกไปเที่ยวที่ที่มีแหล่งน้ำ เพราะฉะนั้นจะดีกว่ามั้ยถ้าลูกน้อยรู้จักวิธีเอาตัวรอดเมื่อตกลงไปในน้ำ ซึ่งเทคนิค ISR หรือ Infant Swimming Resource ก็เป็นเทคนิคที่ดีและปลอดภัย ควรฝึกให้กับลูกน้อยทุกคน

ISR คืออะไร?

ISR หรือ Infant Swimming Resource เป็นเทคนิคการสอนให้เด็กสามารถว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ในเวลาคับขัน เช่น ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็กเผลอแล้วลูกตกลงไปในสระน้ำ ซึ่งอาจทำให้เด็กเสียชีวิตถ้าช่วยเหลือไม่ทัน แต่ถ้าได้รับการฝึกสอนด้วยวิธี ISR ก็จะสามารถช่วยเหลือตนเองจนรอดชีวิตได้  เทคนิคนี้คิดขึ้นโดย ดร. ฮาร์เวย์ บาร์เน็ตต์ ซึ่งได้คิดโปรแกรมการสอนนี้ขึ้นมาเพื่อหวังว่าจะการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียจากการจมน้ำในช่วงวัยเด็กจะลดลง

เทคนิค ISR ฝึกอย่างไร

เทคนิคการสอนคือใช้เทคนิค Roll back to float คือ เมื่อเด็กตกลงไปในน้ำ เป็นการสอนให้เด็ก ว่ายน้ำ พลิกตัว นอนหงาย และ นอนลอยตัวอยู่ในน้ำเป็น โดยการฝึกสอนในโปรแกรม ISR นี้ จะมีการสร้างสถานการณ์ให้เสมือนจริง เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่าหากจมน้ำจะต้องทำอย่างไร ฉะนั้นจะเห็นว่าเด็กใส่ทั้งเสื้อผ้า และรองเท้าครบ ไม่ใช่เพียงแต่ชุดว่ายน้ำขณะฝึก

ข้อดีของการฝึก ISR

  • มีทักษะการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นขณะอยู่ในน้ำ
  • ป้องกันการจมน้ำและเสียชีวิต ซึ่ง ISR เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ดีและปลอดภัย
  • มีการบันทึกเด็กที่จมน้ำแล้วสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยเทคนิค ISR ถึง 788 ครั้ง
  • ส่งเสริมให้ลูกน้อยมีพัฒนาการในการยืน เดิน นั่งได้เร็ว
  • การสอนว่ายน้ำจะช่วยให้ลูกหลับได้ดีทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนได้มากขึ้น
  • ทำให้ลูกน้อยมีการผ่อนคลาย มีความสุข อารมณ์ดี
  • ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

ภาพคลิปตัวอย่างการฝึก ISR

การสอนเด็กเล็กว่ายน้ำ นอกจากลูกจะสามารถช่วยเหลือตัวเองในเวลาคับขันแล้ว ยังส่งผลดีต่อระบบต่างๆในร่างกาย เพราะเด็กจะสามารถออกกำลังกายกล้ามเนื้อได้ทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เพิ่มความแข็งแรงของแขน ขา และกล้ามเนื้อหัวใจของลูกน้อย รวมไปถึงปอด ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั่นเองค่ะ

 

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



9 วิธีแก้ปัญหาลูกน้อยชอบอมข้าว ได้ผล 100%
กิจกรรมของครอบครัว
กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
31 มกราคม 2561
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
8 กีฬาฝึกลูกไว้ไม่มีเชย
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save