fbpx

ข้อกังวลเมื่อลูกถนัดซ้าย

Writer : giftoun
: 13 กันยายน 2560


ส่วนมากแล้วเด็กๆ มักจะถัดขวาเสียเป็นส่วนมาก แต่ก็มีเด็กจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เกิดมาถนัดซ้าย ทำให้คุณแม่หลายคนเป็นกังวลมิใช่น้อยเลยค่ะ แล้วข้อกังวลจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลยค่ะ

กลัวว่าจะไม่เหมือนเด็กคนอื่น

จากผลการศึกษาพบว่า ร้อยละ 70-90 ของประชากรโลก เป็นคนถนัดขวา อาจจะทำให้คุณแม่กังวลได้ว่าลูกเราจะไม่เหมือนคนอื่น แต่การที่ลูกถนัดซ้ายก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันคือความได้เปรียบในทักษะทางการกีฬา และศิลปะสร้างสรรค์ การรับรู้การกะประมาณระยะห่าง และการใช้จินตนาการ รวมถึงความสามารถในการปรับตัว อีกทั้งประสาทรับเสียงดนตรี ทั้งความสูงต่ำของเสียง และน้ำหนักเสียง ล้วนแต่อยู่ภายใต้การควบคุมของสมองซีกขวา ซึ่งเป็นสมองส่วนที่มีบทบาทโดดเด่นในกลุ่มคนถนัดซ้ายค่ะ

กลัวว่าจะเขียนแล้วมือเปื้อน

เพราะการเขียนตัวอักษรภาษาไทยหรือตัวอักษรภาษาอังกฤษนั้นจะเขียนจากซ้ายมาขวา ทำให้มือของคนที่ถนัดซ้าย(เขียนด้วยดินสอ)จะมีโอกาสเปื้อนได้ อย่างไรก็ตาม ลูกนั้นจะเรียนรู้ที่จะยกมือไม่ให้เปื้อนเองค่ะ

กลัวจะใช้อุปกรณ์ไม่เหมาะสม

เพราะการใช้อุปกรณ์ที่ใช้กันทั่วไปในชีวิตประจำวันในโลกที่มีคนถนัดขวาเป็นคนส่วนมากนั้น สิ่งประดิษฐ์อำนวยความสะดวกต่างๆ จึงมักจะสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงคนส่วนใหญ่เป็นหลัก ทั้งที่เป็นปัญหากับการใช้งานของเด็กถนัดซ้าย เช่นสมุดบันทึกริมลวด ซึ่งลวดที่เย็บอยู่ทางซ้ายมือ พร้อมที่จะรบกวนการวางแขนเพื่อเขียนบันทึกของเด็กๆ ดังนั้นคุณแม่ควรจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่เด็กจะสามารถใช้ได้โดยไม่รู้สึกรำคาญ แปลกแยกออกจากผู้อื่น หรือเชื่อว่าความถนัดมือซ้ายนั้นเป็นปมด้อยนะคะ

กลัวในการใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์

ควรจัดวางอย่างเหมาะสมสำหรับเด็กถนัดซ้าย เช่น ย้ายเมาส์มาวางด้านซ้าย และตั้งโปรแกรมการคลิกขวา-ซ้ายบนเมาส์ เหมาะกับเด็กถนัดซ้ายด้วย เพื่อให้เด็กได้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เหล่านี้ได้โดยสะดวก

กลัวเข้ากับเพื่อนของลูกไม่ได้

เพราะการที่ลูกเราถนัดซ้ายนั้นถือว่าเป็นกลุ่มคนส่วนน้อย แล้วถ้าลูกนั้นแตกต่างขึ้นมาอาจจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ แก้ปัญหาได้ด้วยการแจ้งให้ครูของเด็กทราบว่าเด็กถนัดซ้าย อาจต้องการการดูแลในบางเรื่อง เช่น ที่นั่งในห้อง หากจัดที่นั่งเป็นคู่เด็กควรนั่งด้านซ้ายมือ เพื่อความสะดวกในการวางศอกเมื่อเขียนหนังสือ และอาจมีรอยเปื้อนหมึกในสมุดบ้างเป็นบางครั้งซึ่งเป็นเรื่องที่พบเจอได้ในผู้ถนัดซ้ายทั่วไป

กลัวลูกจะไม่ภูมิใจในตัวเอง

ความภูมิใจในตัวเองของเด็กถนัดซ้ายเป็นอีกสิ่งที่คุณแม่ควรคำนึงถึง การมองโลกในแง่บวกเสมอ จะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก สร้างความเชื่อมั่นและเคารพความเป็นตัวของตัวเอง แม้จะการถนัดซ้ายจะเป็นคนส่วนน้อยกว่าในสังคมก็ตาม การสร้างความมั่นใจให้เด็กอาจทำได้โดยยกกรณีตัวอย่างบุคคลสำคัญของโลกคนต่างๆ เช่น บารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เลโอนาโด ดาวินชี ศิลปินชื่อดังของโลก และบิล เกตส์ ผู้นำความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นหนึ่งในกลุ่มคนถนัดซ้ายค่ะ

ที่มา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



วิธีพาลูกขึ้นขนส่งสาธารณะครั้งแรก
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน เด็กวัยเข้าโรงเรียน
19 กุมภาพันธ์ 2561
โรงเรียนอนุบาลทางเลือกที่โดนใจคุณแม่
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
สายด่วนที่คุณแม่ควรจดเบอร์ไว้
ชีวิตครอบครัว
ทำไมลูกชอบร้องไห้ก่อนไปโรงเรียน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save