fbpx

พิชิต 6 โรคฮิตที่มักมากับหน้าร้อน

Writer : nunzmoko
: 23 เมษายน 2561

 

เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้สึกถึงอากาศอันร้อนระอุในช่วงนี้กันแล้วอย่างแน่นอน นอกจากจะต้องรับมือกับอากาศร้อนที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ยังต้องระวังโรคหน้าร้อนให้ดี เพราะอากาศที่อบอ้าวแบบนี้แหละค่ะ เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคอย่างมาก โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย ไม่ว่าจะเป็นโรคที่มากับความร้อนโดยตรง หรือโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน ทำให้ในช่วงซัมเมอร์เราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตกันมากขึ้น มาดูกันดีกว่าว่ามีโรคอะไรบ้างที่เราต้องระวัง!

1. โรคอุจจาระร่วง

ภาพจาก – Rabbit Finance

เป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส โปรโตซัว และหนอนพยาธิ เชื้อก่อโรคเหล่านี้สามารถติดต่อได้โดยการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไปเช่นกัน อาการถ่ายอุจจาระเหลวเป็นอาการสำคัญของโรคอุจจาระร่วง อาจถ่ายเป็นน้ำ หรือถ่ายมีมูกปนเลือด โดยทั่วไปมักจะอาเจียนร่วมด้วย ความรุนแรงของอาการแตกต่างกันได้มาก บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงมาก ซึ่งหากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์ทันที

วิธีป้องกันและรักษา

หากสูญเสียน้ำมากๆ ควรทานเกลือแร่ ทดแทนการสูญเสียน้ำ หากมีอาการปวดท้องหรือปวดเบ่งรุนแรง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือมูกปนเลือด ยิ่งเป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรพาไปพบแพทย์ วิธีป้องกันโรคอุจจาระร่วงคือ กินอาหารและน้ำที่สะอาด ล้างมือบ่อยๆ ขณะเตรียมอาหาร โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสของสด อาหารที่ปรุงสุกแล้วควรเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด ควรล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังกินอาหาร และภายหลังกิจกรรมต่างๆ

2. อาหารเป็นพิษ

ภาพจาก – matichon.co.th

อาหารเป็นพิษเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในช่วงหน้าร้อนที่เราเผลอทานอาหารปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอาหารที่ทำล่วงหน้านานๆ เช่น ข้าวกล่อง หรืออาหารค้างคืนที่ไม่ได้เก็บแช่ไว้ในตู้เย็น อาการของโรคมักเกิดขึ้นภายใน 2-6 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารปนเปื้อนเชื้อเข้าไป เริ่มตั้งแต่มีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย บางครั้งอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ถ้าถ่ายอุจจาระมากจะเกิดอาการขาดน้ำและเกลือแร่ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย

วิธีป้องกันและรักษา

หากพบว่ามีอาการในระยะแรก ควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรืออาหารเหลวมากๆ อาทิ น้ำข้าว น้ำแกงจืด และดื่มเกลือแร่ โดยห้ามกินยาเพื่อให้หยุดถ่าย เพราะจะเป็นการกักเชื้อให้อยู่ในร่างกาย หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพราะหากเกิดการสูญเสียน้ำในร่างกายมาก อาจถึงขั้นช็อกจนเสียชีวิตได้ วิธีป้องกันอาหารเป็นพิษ คือควรกินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ ไม่ทานอาหารที่เก็บไว้ค้างคืนนานๆ เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคโดยไม่จำเป็น

3. อหิวาตกโรค

ภาพจาก – Rabbit Finance

โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียภายในลำไส้ ทำให้เกิดท้องร่วงเฉียบพลันอย่างรุนแรง ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็วจนเข้าขั้นอันตราย ส่งผลให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ในรายที่มีอาการรุนแรงหากไม่ได้รับการรักษาทันเวลาอาจจะทำให้เสียชีวิตภายใน 2-3 ชั่วโมงได้ เชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่มากในอาหารทะเลดิบ หรืออาหารสุกๆ ดิบๆ หากเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะแสดงอาการขึ้นได้ภายใน 24 ชั่วโมงถึง 5 วัน อาจเริ่มจากถ่ายอุจจาระเหลววันละหลายครั้ง มีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย หรือในบางคนมีอาการรุนแรงกว่านั้น เช่น ท้องเดิน ถ่ายคล้ายน้ำซาวข้าว มีมูกมาก มีกลิ่นคาว อาจจะถ่ายได้โดยที่ไม่มีอาการปวดท้อง บางครั้งอาจจะถ่ายออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว หากเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงอาจถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันและรักษา

สุขอนามัยที่ดีก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อต่างๆ ได้มากเลยทีเดียว เพียงแค่หมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่ต้องหยิบจับสิ่งของที่ไม่มั่นใจในความสะอาด หรือแม้แต่ก่อนจะหยิบอาหารเข้าปาก เพื่อเป็นการชำระล้างเชื้อโรคที่อาจติดอยู่ที่มือค่ะ หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือของหมักดอง รับประทานแต่อาหารที่ผ่านความร้อนจนสุก เลี่ยงอาหารที่ทำทิ้งไว้นานแล้ว ก็สามารถปลอดภัยจากเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของอหิวาตกโรคได้ 

4. โรคบิด

ภาพจาก – jadovie.com

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรืออะมีบา ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านการรับประทานอาหาร ผักดิบ รวมถึงน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรคด้วยนะคะ หากติดเชื้อก็มักจะมีไข้ ปวดท้องแบบปวดเบ่ง ถ่ายอุจจาระบ่อย และอาจทำให้อุจจาระมีมูกหรือมูกปนเลือดได้อีกด้วย

วิธีป้องกันและรักษา

แม้โรคบิดจะพบได้มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท แต่ก็สามารถป้องกันได้ไม่ยาก โดยการบริโภคอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำคลองและน้ำดิบ นอกจากนี้ควรขับถ่ายลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคที่อยู่ในอุจจาระกระจายออกไป

5. ไข้ไทฟอยด์

ภาพจาก – bonnykids.com

ไข้ไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย เป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถติดต่อจากอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเช่นกัน ซึ่งเจ้าโรคไข้ไทฟอยด์นี้จะทำให้ผู้ป่วยมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร และอาจท้องผูกหรือท้องเสียได้ นอกจากนี้เชื้อปนก็อาจปนออกมากับอุจจาระและปัสสาวะเป็นครั้งคราวได้ด้วย ทำให้เราเป็นพาหะนำโรคได้นั่นเอง

วิธีป้องกันและรักษา

ผู้ป่วยไม่ควรรับประทานยาเพื่อให้หยุดถ่าย เพราะจะทำให้เชื้อโรคยังคงอยู่ในร่างกาย ซึ่งจะเป็นอันตรายมากขึ้น หากผู้ป่วยอาการดีขึ้น ภายใน 4 ชั่วโมง เริ่มให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น โจ๊ก หรือข้าวต้ม หลังจากดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อช่วยให้ลำไส้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารที่มีแมลงวันตอม ควรทานอาหารที่ปรุงสดใหม่ อยู่ในภาชนะที่ปิดมิดชิด ดื่มน้ำที่สะอาด รวมทั้งล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร

6. โรคลมแดด

ภาพจาก – thaihealth.or.th

โรคลมแดด หรือโรคฮีตสโตรก เกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป เช่น การตากแดดนานๆ ทำให้สมองไม่ทำงาน ไม่สามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ รวมทั้งการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ทำให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติเกิน 40 องศาเซลเซียส ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาอย่างรีบด่วน เนื่องจากมีโอกาสเสียชีวิตถึงร้อยละ 17-70 เลยทีเดียว

วิธีป้องกันและรักษา

สวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด หากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้ว่าจะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

วิธีที่จะป้องกันโรคในหน้าร้อนได้ดีคือ เลือกทานอาหาร น้ำดื่ม ที่สด ใหม่ สะอาด เน้นอาหารปรุงสุก และปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่ว่าที่บ้านหรือที่ทำงาน อากาศต้องถ่ายเทสะดวก ส่วนห้องแอร์ก็ต้องเย็นอย่างพอเหมาะด้วยอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ไม่อย่างนั้นพอออกไปข้างนอกห้องอาจทำให้เกิดอาการวูบได้ง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงหน้าร้อนนี้ได้แล้วค่ะ

 

ที่มา :

สำนักโรคติดต่อทั่วไป
สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ข้อมูลทางแพทย์ ข้อมูลทางแพทย์
1 พฤศจิกายน 2560
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save