fbpx

9 ประโยชน์ของการให้ลูกเข้าครัว

Writer : Lalimay
: 31 สิงหาคม 2561

ช่วงนี้รายการแข่งขันทำอาหารที่มีผู้เข้าแข่งขันเป็นเด็กอย่าง MasterChef Junior กำลังมาแรงเลยค่ะ เด็กๆ ในรายการน่ารักและเก่งกันมากๆ จากรายการนี้จะเห็นว่าการที่ให้เด็กๆ เข้าครัวนั้นก็เป็นการฝึกฝนทักษะด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงมี 9 ประโยชน์ของการให้ลูกเข้าครัวมาฝากคุณแม่ทุกคนค่ะ เผื่อวันหยุดนี้จะได้ชวนลูกมาเข้าครัวด้วยกัน ~

ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก

เด็กๆ จะได้ฝึกการหยิบจับสิ่งของเครื่องใช้ในครัวและวัตถุดิบต่างๆ  คุณแม่อาจให้ลูกช่วยล้างผัก หรือหยิบส่วนผสมต่างๆ ลองให้ลูกจับตะหลิวหรือหั่นวัตถุดิบดูบ้างก็ได้ (ควรให้ลูกใช้มีดพลาสติก) และถ้าทำอาหารที่มีการปั้น แล้วลูกช่วยปั้นก็จะพัฒนากล้ามเนื้อมือของลูกได้อย่างดีเลยค่ะ

ฝึกสมาธิ

การทำอาหารก็เป็นสิ่งที่ต้องใช้สมาธิอยู่เหมือนกัน เพราะลูกต้องจดจ่อเวลาทำสิ่งได้สิ่งหนึ่ง เช่น ถ้าเราลองให้ลูกหั่นวัตถุดิบแล้วเขาไม่มีสมาธิ ไม่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำก็อาจทำให้ถูกมีดบาดได้ค่ะ

เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ

การเข้าครัวจะทำให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์หลายๆ ด้าน ตั้งแต่วัตถุดิบ อุปกรณ์เครื่องครัว รวมไปถึงวิธีทำอาหารให้รูปแบบต่างๆ ซึ่งลูกจะได้เรียนรู้ศัพท์เฉพาะที่เกี่ยวกับการทำอาหารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลยค่ะ 

เรียนรู้วิทยาศาสตร์เล็กๆ น้อยๆ

หลายเรื่องในห้องครัวเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์นะคะ เราสามารถสอนเขาให้เข้าใจได้ง่ายๆ อย่างเช่น เรื่องของน้ำกับน้ำมัน น้ำมันเดือดที่อุณหภูมิสูงกว่าน้ำ การที่น้ำมันกระเด็นเวลาทำอาหารเป็นเพราะน้ำได้รับความร้อนสูงมากจึงขยายตัวอย่างรวดเร็วนั่นเอง

ฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์

เด็กๆ อาจจะรังสรรค์เมนูของตัวเองขึ้นมาก็ได้ค่ะ เขาอาจลองใส่วัตถุดิบที่ตัวเองชื่นชอบลงไปในอาหาร แม้ว่าบางครั้งของเหล่านั้นไม่ได้มีความเข้ากัน เราก็ต้องปล่อยให้เขาลองทำดู และเมื่อทำเสร็จก็ให้เขาลองชิม ตอนนั้นลูกก็จะเรียนรู้ว่าอันไหนเข้าหรือไม่เข้ากัน ถือเป้นการพัฒนาฝีมือไปในตัวด้วย

สอนเรื่องความสะอาด

ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ในการทำอาหาร ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบที่สด สะอาด ในระหว่างที่ทำอาหารก็ต้องระมัดระวังอย่าให้มีเส้นผมตกลงไป รวมไปถึงเวลาชิมอาหารที่ทำก็ต้องสอนให้เขาใช้ช้อนกลาง และที่สำคัญหลังทำเสร็จก็ต้องรู้จักเก็บล้าง ทำความสะอาดให้เรียบร้อย

ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

การทำอาหารเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่สามารถทำเป็นงานอดิเรกได้เลย ดีกว่าให้ลูกเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นไหนๆ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีให้แก่คนในครอบครัวอีกด้วย

ลูกทำอาหารกินเองได้

การฝึกให้ลูกเข้าครัวตั้งแต่เด็ก จะทำให้เขาคล่องแคล่วในเรื่องของการทำอาหารมากขึ้น เมื่อโตขึ้นเขาก็สามารถดูแลตัวเอง ทำอาหารกินเองได้ ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะได้กินแต่อาหารสำเร็จรูปค่ะ

แก้ปัญหาลูกกินยาก

ถ้าบ้านไหนกำลังประสบปัญหาลูกกินยากเหลือเกิน ขอแนะนำให้พาเข้าครัวค่ะ เพราะการที่ลูกได้ลงมือทำอาหารเอง จะทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจว่าอาหารจานนี้เป็นฝีมือตัวเองจึงต้องกินให้หมด

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save