fbpx

Checklist! ส่องพัฒนาการเด็ก 2 เดือน - 6 ขวบ ลูกน้อยเติบโตสมวัยรึเปล่านะ?

Writer : Taloei
: 25 เมษายน 2565

เพราะพัฒนาการในวัยเด็ก คือ สิ่งสำคัญสำหรับวัยเริ่มต้นในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เฉพาะมาก คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงต้องเริ่มนับ 1 เพื่อศึกษาพัฒนาการของลูกตามช่วงอายุกันอีกครั้ง

ใน 12 เดือนแรก จนถึง 6 ขวบ พัฒนาการของลูกน้อยจะมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่จึงต้องหมั่นสังเกตร่างกาย และพฤติกรรมของลูกอย่างชัดเจน กันไว้ก่อนแก้ เพื่อไม่ให้เด็กมีพัฒนาการที่ล่าช้านั่นเองค่ะ

ถ้าไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน ลองมา Checklist! พัฒนาการกับ Parents One กันได้เลย เอ๊ะ! ว่าแต่ลูกน้อยของเราเติบโตอย่างสมวัยรึเปล่านะ? มาเช็กกัน

พัฒนาการของเด็กวัย 2 เดือน

  • ยกศีรษะได้ เมื่อนอนคว่ำ
  • ชันคอได้ เมื่อถูกอุ้ม
  • ยิ้ม
  • ส่งเสียงอ้อแอ้
  • สบตา
  • เอามือเข้าปาก
  • ขยับแขนขาเท่ากันทั้งสองข้าง
  • ส่งเสียงร้องสื่อสารได้หลากหลายแบบ เช่น ยามหิวหรือยามเหนื่อย 

 

พัฒนาการของเด็กวัย 4 เดือน   

  • เริ่มกลิ้งตัว และเอื้อมคว้าสิ่งของ
  • แสดงท่าทีให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และไม่ชอบอะไรได้
  • ยิ้มทัก
  • ตั้งศีรษะได้เมื่อนั่งบนตัก
  • อยากให้เล่นด้วย
  • ชอบนอนขดตัว
  • ส่งเสียงพูดที่มีเสียงพยัญชนะหลากหลายมากขึ้น
  • เมื่อนอนคว่ำใช้แขนยกหน้าอกขึ้นได้
  • สงบอารมณ์เองได้

 

พัฒนาการของเด็กวัย 6 เดือน

  • ชอบมองไปรอบๆ
  • หยิบสิ่งของเข้าปาก
  • นั่งเองได้ชั่วครู่, ยันกายไปข้างหน้า
  • กลิ้งตัว
  • ชอบเล่นกับคนเลี้ยง
  • พูดส่งเสียงพยัญชนะต่อเนื่องกันหลายคำและพยายามจะคุยกับคุณ
  • ยิ้มให้คนที่รู้จัก
  • เริ่มจำชื่อได้

 

พัฒนาการของเด็กวัย 9 เดือน

  • คลานได้ ชอบคลาน
  • มองตามสิ่งของที่ตกลงมา
  • เกาะเหนี่ยวตัวขึ้นเพื่อยืน
  • กลัวคนแปลกหน้า
  • ชอบเข้ามาหาคนที่สนิทใจ เพื่อเล่นด้วย และทำให้ตัวเองรู้สึกอบอุ่น
  • นั่งได้มั่นคง
  • ส่งเสียงเลียนแบบผู้เลี้ยงได้
  • มองดูภาพในหนังสือได้
  • เล่นจ๊ะเอ๋
  • ชี้สิ่งของที่สนใจ

 

พัฒนาการของเด็กวัย 12 เดือน

  • โบกมือบ๊ายบาย
  • เอาของเล่นกระทบกัน
  • พยายามเลียนเสียงที่คุณทำ
  • ยื่นหนังสือให้คุณอ่านให้
  • พยายามจะทำเลียนแบบในสิ่งที่ผู้เลี้ยงทำ
  • ยืนคนเดียวได้
  • ดื่มน้ำจากถ้วยได้
  • พูดได้ 1 – 2 คำ
  • ส่งเสียงพูดคุยเลียนแบบผู้เลี้ยง
  • เล่นจ๊ะเอ๋
  • มองสิ่งที่คุณกำลังมอง
  • ร้องไห้ เมื่อคุณออกห่าง
  • ทำตามคำสั่งง่ายๆ ได้

 

พัฒนาการของเด็กวัย 18 เดือน

  • ชี้อวัยวะในร่างกายได้ 1 อย่าง
  • เดินขึ้นบันไดได้
  • รู้จักชื่อหนังสือที่ชอบ
  • หัวเราะโต้ตอบผู้อื่น
  • พูดได้อย่างน้อย 6 คำ
  • ชอบเข้าไปช่วยทำงานต่างๆ ในบ้าน
  • ตอนนี้เริ่มวิ่งได้แล้ว

 

พัฒนาการของเด็กวัย 2 ขวบ

  • เล่นบทบาทสมมติ
  • ขว้างลูกบอลข้ามไหล่
  • กระโดดอยู่กับที่
  • เรียงบล็อกชิ้นเล็กได้ 5 – 6 อัน
  • เตะบอลได้
  • เดินขึ้นลงบันไดได้ทีละ 1 ขั้นคนเดียวขณะจับกำแพงหรือราวบันได
  • ชี้ภาพที่คุณเอ่ยชื่อขณะอ่านหนังสือได้ อย่างน้อย 2 ภาพ
  • พูดสองคำติดกันได้ เช่น “กินข้าว”
  • บอกชื่อได้ 1 รูป เช่น แมว สุนัข หรือลูกบอล ฯลฯ
  • พลิกเปิดหนังสือทีละหน้าได้
  • ทำเลียนแบบสิ่งที่คุณทำ
  • เล่นอยู่ข้าง ๆ กับเด็กคนอื่นได้
  • ทำตามคำสั่ง 2 ขั้นตอนได้

 

พัฒนาการของเด็กวัย 3 ขวบ

  • วาดรูปทรงวงกลม
  • ต่อบล็อกเล็กได้ 6 อัน
  • ขว้างบอลข้ามไหล่
  • ทรงตัวบนเท้าข้างเดียวได้
  • เล่นบทบาทสมมติ
  • บอกชื่อเพื่อน
  • เดินขึ้นบันไดโดยสลับเท้า
  • พูดคุยได้ 2 – 3 ประโยคในทีเดียว
  • รู้จักชื่อและบอกประโยชน์ของถ้วย ช้อน ลูกบอล และสีเทียนได้
  • พูดแล้วผู้อื่นฟังเข้าใจเป็นส่วนใหญ่
  • ระบุเพศตัวเองได้
  • ฝึกเข้าห้องน้ำเองได้ในช่วงกลางวัน
  • วาดรูปคนที่ประกอบด้วย 2 ส่วน
  • ดูแลตัวเองได้ เช่น กินอาหาร แต่งตัว ฯลฯ

 

พัฒนาการของเด็กวัย 4 ขวบ

  • แต่งตัว และติดกระดุมเองได้
  • เล่นเกมที่ผลัดกันเล่นได้
  • วาดรูปกากบาท
  • ทรงตัวบนเท้าข้างเดียวได้
  • แปรงฟันเองได้
  • กระโดดกระต่ายขาเดียว
  • วาดรูปคนที่ประกอบด้วย 3 ส่วน
  • ต่อตึกด้วยบล็อกเล็ก 8 ชิ้น
  • เล่นบทบาทสมมติคนเดียว และเล่นกับคนอื่น
  • รู้จักชื่อ และอายุตัวเองรวมถึงเพศ
  • บอกชื่อสีได้ 4 สี
  • สื่อสารให้คนอื่นเข้าใจได้

 

พัฒนาการของเด็กวัย 6 ขวบ

  • ทรงตัวด้วยเท้าเดียวได้
  • ฟังเข้าใจ และทำตามคำชี้แนะง่ายๆ ได้
  • เล่าเรื่องได้เป็นประโยคที่สมบูรณ์
  • ก้าวกระโดด กระโดดขาเดียว ปืน
  • บอกชื่อสีได้อย่างน้อย 4 สี
  • วาดรูปคนที่มีส่วนประกอบ 6 ส่วน
  • นับเลขได้ 1 – 10
  • วาดรูปสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยมได้
  • เขียนตัวอักษรหรือตัวเลขได้บางตัว
  • ผูกเงื่อน

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก www.bangkokhospital.com

 

Writer Profile : Taloei

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save