fbpx

ทำความรู้จักอาการโคลิก (Colic) การแผดเสียงร้องของทารกที่หาสาเหตุไม่ได้

Writer : Lalimay
: 28 มีนาคม 2562

หากลูกร้องไห้บ่อยในช่วงเย็นถึงหัวค่ำอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะทำยังไงก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าลูกร้องเพราะอะไร นั่นอาจจะเป็น อาการโคลิก (Colic) ภาวะการร้องไห้จ้าที่เกิดขึ้นกับเด็กแรกเกิดจนถึง 3 เดือน แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการโคลิกจะหายได้เองเมื่อเด็กมีอายุ 3 เดือนขึ้นไป และได้ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใดค่ะ

โคลิก (Colic) มาจากคำว่าอาการปวดท้องจากลำไส้บีบตัว เนื่องจากในตอนแรกมีการสังเกตพบว่าอาการร้องของเด็กกลุ่มนี้มีอาการคล้ายเวลาเด็กปวดท้องลำไส้บิด ซึ่งจะร้องเสียงดังและร้องไม่หยุด แต่ต่อมาเมื่อรู้ว่าสาเหตุของการร้องคืออะไร ก็ถือว่าเป็นการร้องเพราะโรคนั้นๆ ไม่ใช่อาการโคลิก ดังนั้นอาการโคลิกคือการร้องไห้จ้าที่หาสาเหตุไม่ได้ เกิดขึ้นกับเด็กแรกเกิดจนถึง 3 เดือน เราไปดูอาการ สาเหตุและวิธีการดูแลเด็กที่เป็นโคลิกกันดีกว่าค่ะ

อาการของโคลิก

  • ร้องไห้อย่างรุนแรงเรียกได้ว่าแผดเสียงจ้า
  • เวลาร้องไห้จะกำมือแน่น หน้าแดง ชูขาสูงขึ้นมาถึงหน้าอก
  • ร้องไห้ในช่วงเวลาเดิมๆ คือ ช่วงหัวค่ำ ประมาณ 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม
  • ร้องไห้นานกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน มากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องนานกว่า 3 สัปดาห์
  • เวลาอื่นๆ จะอารมณ์ดี
  • ปลอบยังไงก็ไม่หายร้อง
  • ตรวจร่างกายแล้วไม่มีความปกติ

สาเหตุที่ทำให้เกิดโคลิก

หากพบว่าลูกร้องไห้หนักอาจลองดูจากสาเหตุเหล่านี้ค่ะ เพราะอยากให้เข้าใจกันก่อนว่า อาการโคลิกนั้นยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ถ้าลูกร้องหนักอาจเป็นเพราะปัจจัยอื่น

  • มีอากาศในท้องมากเกินไป เช่น หากลูกดูดนมจากขวดแล้วปล่อยให้ลูกดูดไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่านมจะหมดแล้วก็ตาม ก็จะทำให้มีอากาศเข้าไปในท้องมาก
  • แพ้นมวัว เพราะนมผงบางยี่ห้อจะมีส่วนผสมจากนมวัว ซึ่งหากเด็กแพ้นมวัวก็จะทำให้ไม่สบายท้องและร้องไห้แบบปวดท้องได้ ควรเปลี่ยนไปใช้นมที่ปราศจากนมวัวหรือให้ดูดนมแม่ตั้งแต่แรก
  • ลำไส้ของลูกน้อยกำลังทำงานหนักเกินไปเพื่อจะขับของเสีย ออกและเริ่มเป็นตะคริว

หากพบสาเหตุที่ทำให้ลูกร้องไห้ได้แล้วก็ให้รักษากันไปตามอาการ ถ้าหาสาเหตุไม่พบ นั่นถึงเรียกว่าอาการโคลิก แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการโคลิกจะหายได้เองเมื่อเด็กมีอายุ 3 เดือนขึ้นไป และเมื่อลูกโตขึ้นก็จะเป็นปกติดี มีความสุขและอารมณ์ดี มีพัฒนาการตามปกติไม่แตกต่างจากเด็กที่ไม่เป็นโคลิกแต่อย่างใด

วิธีการดูแลอาการโคลิก

  •  อาบน้ำอุ่นให้ลูกน้อย แล้วเอาผ้าห่อตัวลูกไว้ให้อบอุ่น
  •  นวดท้องให้ลูกอย่างนุ่มนวล โดยนวดตามเข็มนาฬิกา
  •  ขยับขาให้ลูกโดยหมุนเป็นวงกลม
  •  อุ้มลูกไปที่เงียบๆ พร้อมโยกตัวลูกไปมาเบาๆ เพราะการเคลื่อนไหวจะช่วยให้ลูกน้อยสงบลง (เป็นการอุ้มพาดบ่า หรือวางบนตัก)

** ข้อห้าม : ห้ามเขย่าหรือสั่นทารกแรงๆ พ่อแม่บางคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ อาจเขย่าหรือสั่นตัวทารกอย่างรุนแรงเพื่อให้หยุดร้องไห้ ทำให้เกิดอันตรายรุนแรงต่อสมองของทารก จอประสาทตาหลุดลอกและบางคนเสียชีวิต

ที่สำคัญที่สุดคือจิตใจของคุณพ่อ – คุณแม่ค่ะ เพราะว่าการปลอบให้ลูกหยุดร้องไห้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ถึงแม้ว่าเราจะปลอบจนลูกหยุดร้องได้แล้ว แต่อีกสักพักเขาก็จะแผดร้องขึ้นมาเหมือนเดิม ทำให้เรารู้สึกกระวนกระวายใจ กลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย พาลทำให้เราคิดว่าเป็นพ่อแม่ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นในการดูแลลูกที่เป็นโคลิกนั้น จะต้องรู้เท่าทันว่านี่เป็นโรคที่ไม่ได้สร้างอันตรายอะไรให้กับลูกของเรา และอาการเหล่านี้จะหายได้เองค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



นวด นวด นวด มานวดลูกน้อยกันเถิด
เด็กวัยแรกเกิด
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save