fbpx

มาเข้าครัวกัน! 4 สูตรแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นที่เด็กๆ ก็กินได้

Writer : Lalimay
: 11 กันยายน 2562

อาหารญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในเมนูที่หลายๆ ครอบครัวชื่นชอบ เพราะมีรสชาติอร่อย อีกทั้งยังทำง่าย นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เพราะเต็มไปด้วยผักอย่างแคร์รอต มันฝรั่งและหอมหัวใหญ่ซึ่งมีประโยชน์ วันนี้เราจึงมีสูตรในการทำแกงกะหรี่ให้อร่อย ถูกใจเจ้าตัวเล็กมาฝากด้วยกัน 4 สูตรค่ะ

สูตรแกงกะหรี่โยเกิร์ต

วัตถุดิบ

  1. เนื้อหมูสับ 100กรัม
  2. หัวหอมหั่นเต๋า ครึ่งลูก
  3. แคร์รอตหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ ครึ่งลูก
  4. มันฝรั่งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ 1 ลูก
  5. โยเกิร์ต 2-3 ช้อนโต๊ะ (ตามความชอบชอบ)
  6. ก้อนแกงกะหรี่ 1-2 ก้อน (ตามความชอบ)
  7. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  8. เกลือ
  9. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  10. เนย 1 ก้อน

วิธีทำ

  1. นำเนยใส่กระทะจนละลายตามด้วยหัวหอม
  2. ผัดจนหัวหอมใสเริ่มมีสีน้ำตาลและถึงใส่เนื้อหมูตามลงไป
  3. ผัดคลุกเคล้าจนหมูเริ่มสุกส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือหนึ่งหยิบมือ
  4. เมื่อทุกอย่างผัดจนเข้าที่นำแคร์รอตลงไปผัดตามด้วยมั่นฝรั่ง
  5. ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วจึงเติมน้ำให้ท่วม
  6. ต้มให้แคร์รอตและมันฝรั่งสุกนิ่ม ใช้ไฟกลาง
  7. ในระหว่างต้มคอยช้อนเอาคราบไขมันที่ลอยอยู่ออกเป็นระยะ
  8. เติมน้ำผึ้งลงไปเพิ่มความกลมกล่อม
  9. ใส่ก้อนแกงกะหรี่ลงไป
  10. กวนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ได้สีสวย ต้องกวนตลอดเวลาเพื่อกันการไหม้
  11. เมื่อน้ำแกงงวดแล้วใส่โยเกิร์ตลงไปทีละช้อนและชิมรสชาติ เติมให้ได้รสที่ต้องการ

สูตรแกงกะหรี่ช็อกโกแลต

วัตถุดิบ

  1. เนื้อหมูสับ 100กรัม
  2. หัวหอมหั่นเต๋า ครึ่งลูก
  3. แคร์รอตหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ ครึ่งลูก
  4. มันฝรั่งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ 1 ลูก
  5. ดาร์คชอคโกแลต 2-3 ชิ้น (ตามความชอบชอบ)
  6. ก้อนแกงกะหรี่ 1-2 ก้อน (ตามความชอบ)
  7. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  8. เกลือ
  9. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  10. เนย 1 ก้อน

วิธีทำ

  1. นำเนยใส่กระทะจนละลายตามด้วยหัวหอม
  2. ผัดจนหัวหอมใสเริ่มมีสีน้ำตาลและถึงใส่เนื้อหมูตามลงไป
  3. ผัดคลุกเคล้าจนหมูเริ่มสุกส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือหนึ่งหยิบมือ
  4. เมื่อทุกอย่างผัดจนเข้าที่นำแคร์รอตลงไปผัดตามด้วยมั่นฝรั่ง
  5. ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วจึงเติมน้ำให้ท่วม
  6. ต้มให้แคร์รอตและมันฝรั่งสุกนิ่ม ใช้ไฟกลาง
  7. ในระหว่างต้มคอยช้อนเอาคราบไขมันที่ลอยอยู่ออกเป็นระยะ
  8. เติมน้ำผึ้งลงไปเพิ่มความกลมกล่อม
  9. ใส่ก้อนแกงกะหรี่ลงไป
  10. กวนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ได้สีสวย ต้องกวนตลอดเวลาเพื่อกันการไหม้
  11. เมื่อน้ำแกงง่วนแล้วใส่ชอคโกแลตทีละก้อนชิมรสชาติให้ได้เข้มข้นถูกใจ

สูตรแกงกะหรี่มะเขือเทศ

วัตถุดิบ

  1. เนื้อหมูสับ 100กรัม
  2. หัวหอมหั่นเต๋า ครึ่งลูก
  3. มะเขือเทศหั่นเต๋า ครึ่งลูก
  4. แคร์รอตหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ ครึ่งลูก
  5. มันฝรั่งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ 1 ลูก
  6. ก้อนแกงกะหรี่ 1-2 ก้อน (ตามความชอบ)
  7. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  8. เกลือ
  9. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  10. เนย 1 ก้อน

วิธีทำ

  1. นำเนยใส่กระทะจนละลายตามด้วยหัวหอม
  2. ผัดจนหัวหอมใสเริ่มมีสีน้ำตาลและถึงใส่เนื้อหมูตามลงไป
  3. ผัดคลุกเคล้าจนหมูเริ่มสุกส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือหนึ่งหยิบมือ
  4. เมื่อทุกอย่างผัดจนเข้าที่นำแคร์รอตลงไปผัดตามด้วยมั่นฝรั่ง
  5. ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วจึงเติมน้ำให้ท่วม
  6. ต้มให้แคร์รอตและมันฝรั่งสุกนิ่ม
  7. ในระหว่างต้มคอยช้อนเอาคราบไขมันที่ลอยอยู่ออกเป็นระยะ
  8. เติมน้ำผึ้งลงไปเพิ่มความกลมกล่อม
  9. เมื่อทุกอย่างสุกดีแล้วใส่มะเขือเทศหั่นเต๋าลงไป
  10. เมื่อมะเขือเทศนิ่มแล้วใส่ก้อนแกงกะหรี่ตาม
  11. กวนจนเป็นเนื้อเดียวกันจนน้ำงวด

 

สูตรแกงกะหรี่ข้าวโพด

วัตถุดิบ

  1. เนื้อหมูสับ 100กรัม
  2. หัวหอมหั่นเต๋า ครึ่งลูก
  3. ข้าวโพดต้มสุก 1 ถ้วย
  4. แคร์รอตหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ ครึ่งลูก
  5. มันฝรั่งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ 1 ลูก
  6. ก้อนแกงกะหรี่ 1-2 ก้อน (ตามความชอบ)
  7. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  8. เกลือ
  9. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  10. เนย 1 ก้อน

วิธีทำ

  1. นำเนยใส่กระทะจนละลายตามด้วยหัวหอม
  2. ผัดจนหัวหอมใสเริ่มมีสีน้ำตาลและถึงใส่เนื้อหมูตามลงไป
  3. ผัดคลุกเคล้าจนหมูเริ่มสุกส่งกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยเกลือหนึ่งหยิบมือ
  4. เมื่อทุกอย่างผัดจนเข้าที่นำแคร์รอตลงไปผัดตามด้วยมั่นฝรั่ง
  5. ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วจึงเติมน้ำให้ท่วม
  6. ต้มให้แคร์รอตและมันฝรั่งสุกนิ่ม
  7. ในระหว่างต้มคอยช้อนเอาคราบไขมันที่ลอยอยู่ออกเป็นระยะ
  8. เติมน้ำผึ้งลงไปเพิ่มความกลมกล่อม
  9. เมื่อทุกอย่างสุกดีแล้วใส่ข้าวโพกต้มสุกลงไป
  10. กวนจนข้าวโพดเข้ากับน้ำซุปแล้วจึงใส่ก้อนแกงกะหรี่
  11. กวนจนเป็นเนื้อเดียวกันให้งวดน้ำ
Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save