fbpx

Working Mom with Passion สัมภาษณ์ ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย กับบทบาทคุณแม่และผู้บริหาร Google ในเวลาเดียวกัน

Writer : Phitchakon
: 29 สิงหาคม 2566

แม้การทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกันจะเป็นเรื่องยาก แต่คุณแม่คนเก่งอย่างคุณ ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย Working Mom ผู้เปี่ยมไปด้วยแรงใจ สามารถทำได้ ทั้งในฐานะของผู้บริหาร Google ผู้มีความฝัน และ ในฐานะของคุณแม่ผู้อยากให้ลูกมีความสุข 

วันนี้ Parents One ชวนอ่านบทสัมภาษณ์สำหรับคุณแม่ผู้ทำงานหนักถึงทางออกของการบาลานซ์ชีวิตทั้งสองฝั่งนี้อย่างสมดุล รวมถึงทางออกสำหรับการพูดคุยและวิธีการเลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจว่ามีอะไรบ้าง

บทบาทการทำงานในฐานะผู้บริหาร Google

ปัจจุบันเป็น Country Marketing Manager ทำหน้าที่ดูแล Marketing ทั้งหมดของประเทศไทย ทั้งภาคธุรกิจและภาคผู้บริโภค อย่าง Youtube และ Search รวมถึงในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเราอยู่กับ Google มา 8 ปีแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ทีม Google มีคนอยู่ประมาณ 30 คน โดยเราดูธุรกิจเกี่ยวกับโฆษณาให้กับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง ซึ่ง 2 ปีหลังจากเข้ามาทำงานที่ Google เราก็เริ่มตั้งครรภ์

แรงบันดาลใจในการเป็นคุณแม่ ขณะที่หลายคนเริ่มไม่อยากจะมีลูกในยุคนี้

เราคิดว่าโลกตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งนิยามความเป็นครอบครัวในปัจจุบันก็มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ครอบครัวที่มีคุณพ่อหรือคุณแม่สองคน ซึ่งแตกต่างกับสมัยก่อนที่ “ความเป็นแม่” คือสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องมี

“การมีลูกไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จ” แต่เราสามารถเติบโตในหน้าที่การงานหรือทำสิ่งที่ชอบพร้อมกับการมีลูกได้ ซึ่งถ้าเราจัดการชีวิตดี ๆ และมีครอบครัวที่เราสามารถตกลงกับเค้าได้ว่า “เราจะเป็นแม่แบบไหน” บางทีเราก็อาจจะทำอะไรได้หลายอย่างเลยก็ได้

วางแผนชีวิตตัวเองในฐานะแม่และ Working Woman คนหนึ่งอย่างไร

ในช่วงเริ่มต้น การที่เราได้รับการสนับสนุนจากบริษัทถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เช่น สวัสดิการของ Google ที่สามารถลาคลอดได้ 24 สัปดาห์และสามารถรับเงินเดือนได้ปกติ ทำให้เรามีเวลามากพอที่จะจัดการชีวิตได้อย่างเต็มที่ รวมถึงคุณพ่อหรือคนที่อยู่ในช่วงที่รับเด็กเข้ามาเลี้ยงก็สามารถลาได้ 18 สัปดาห์เช่นกัน

“อย่าเพิ่งคิดไปก่อน ให้ลองปรับเรื่อย ๆ ว่าอะไรดีที่สุด” เป็นแนวคิดที่ทำให้เราตระหนักได้ว่าเราไม่จำเป็นที่ต้องรู้ทั้งหมด แต่เราจะสามารถหาทางออกให้กับมันได้ ซึ่งการมีลูกทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น ทำให้เราสามารถเข้าใจปัญหาที่คุณแม่ในทีมต้องเจอได้ ซึ่งใน Google ก็มีหลากหลายสังคมที่เปิดให้คุณแม่ได้คุยกัน เช่น Woman@ ที่สามารถเลือกปรึกษาปัญหากันได้อย่างหลากหลายเช่นกัน

วางสมดุลระหว่างงานและครอบครัวอย่างไร

เราคิดว่าความสุขของเราและครอบครัวเป็นสิ่งที่ต้องก้าวเดินไปพร้อมกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วเรามีกิจกรรมเยอะมาก ทั้งจากที่ทำงานหรือโปรเจคส่วนตัวที่จำเป็นต้องทำในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้น เราจะแบ่งเวลาอย่างเหมาะสมและบอกลูกอย่างชัดเจนว่าเวลาของเค้าคือช่วงไหน เช่น ในหนึ่งอาทิตย์ เราจะส่งลูกนอนประมาณ 4-5 วัน ทำให้เราสามารถออกไปกินข้าวหรือไปทำอะไรได้สองถึงสามวัน ซึ่งช่วงเวลาอ่านหนังสือให้เค้าฟังก่อนนอนเราก็จะวางโทรศัพท์ไว้ที่อื่น ทำให้เค้ารู้ว่านี่คือเวลาของเค้า แล้วหลังจากนั้นเราก็จะไปดูหนังตามความชอบของเราได้โดยไม่รู้สึกผิด

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือ การให้ความสำคัญกับการคาดหวังของลูก เช่น บางครั้งถ้าเราต้องไปต่างประเทศ เราก็จะจัดให้อยู่ในตารางวันธรรมดา เช่น ไปจันทร์เช้า กลับพฤหัสเย็น เมื่อใกล้เวลาเราก็จะบอกลูก รวมถึงบอกประเทศที่เราไป เมื่อเค้าเข้าใจเค้าก็จะไม่ว่าอะไร ซึ่งเราควรคุยกับครอบครัวกันก่อนมีลูกว่าถ้ามีลูกแล้วเราจะแบ่งสัดส่วนชีวิตยังไง จะเป็นแม่แบบไหนที่ไม่สูญเสียตัวตน ซึ่งถ้าเราสามารถรักษาสมดุลตรงนี้ได้ ทุกคนในบ้านก็จะมีความสุข

มุมมองต่อการใช้สื่อออนไลน์สำหรับเด็ก

ด้วยความที่เราทำงานอยู่ Google เราก็จะรู้จักเครื่องมือที่หลากหลาย อย่างสิ่งที่คนมักจะถามเป็นประจำ คือ เราจัดการเวลาใช้หน้าจอของลูกอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วเราคิดว่ามันอยู่ที่ว่าเราตกลงกับลูกยังไง เช่น เราจะมีเวลาให้ลูกอยู่หน้าจอแค่เสาร์-อาทิตย์ นอกนั้นจะไม่ได้ ซึ่งจะมีเครื่องมือของ Google เข้ามาช่วย เช่น Youtube Kids ที่มีการคัดสรรเนื้อหาที่เหมาะกับเด็กรวมถึงระบบต่าง ๆ ที่เราสามารถจำกัดเวลาการใช้หน้าจอของลูกได้ หรือ Family Link ที่ช่วยให้เราสามารถติดตามเนื้อหาและแอปพลิเคชันที่ลูกเรามักจะเข้า ด้วยการเชื่อมต่อแอคเคาท์ของเค้าเข้ากับของเราเพื่อควบคุมการเข้าถึงหน้าจอและเนื้อหาต่าง ๆ ได้ โดยนอกจากแอปพลิเคชันแล้ว โปรแกรม Be internet awesome จาก Google เองก็เป็นส่วนช่วยที่สำคัญ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับเด็กอายุ 7-12 ปีขึ้นไป ที่มีวิธีการสอนให้เค้ารู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อของสื่อออนไลน์ได้อย่างแยบยลผ่านเกมที่เข้าใจง่าย

แนวคิดการสอนลูกให้เข้าใจเรา

เราตั้งกฎที่ชัดเจนให้กับลูกและอ่อนโยนกับลูกในขณะเดียวกัน เช่น เราให้ลูกนอนคนเดียวตั้งแต่ 5 เดือน ซึ่งเราเข้มงวดกับเรื่องนี้มาก แต่ถ้าหากวันไหนเค้าอยากนอนกับเรา เราก็จะบอกเค้าว่าให้เค้านอนเองนะ ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกกลัวก็ค่อยเรียก แต่ถ้าไม่ได้รู้สึกกลัวหรือคิดว่าสามารถไปเข้าห้องน้ำเองได้ก็ลองไปคนเดียวดู ถ้าไม่ไหวก็ค่อยเรียกเรา 

“ต้องเป็นการตั้งกฎที่พอยอมรับได้” ภายใต้กฎ 3-5 ข้อที่ไม่ได้เยอะ ซึ่งทุกคนในบ้านจำเป็นต้องตกลงร่วมกัน รวมถึงสร้างความเข้าใจให้กับลูกด้วย ถ้าหากเราดุเค้าพร่ำเพรื่อ เค้าก็จะมีความอดทนต่อการถูกดุสูง ดังนั้น เราจึงต้องให้แรงขับเคลื่อนเชิงบวกกับลูกมากกว่าการข่มขู่ แล้วความสัมพันธ์ของเราและลูกก็จะราบรื่น

ส่งท้ายให้คุณแม่ที่ต้องการกำลังใจในการเลี้ยงลูกช่วงโควิด

เราคิดว่าการเป็นแม่เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ในทุก ๆ วัน ซึ่งเราอาจจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าถ้าหากเราให้ลูกมากกว่านี้ ถ้าเราสามารถไปรับลูกที่โรงเรียนทุกวันได้ หรือ เข้าร่วมกิจกรรมโรงเรียนกับลูกได้คงจะดีกว่านี้ ดังนั้นเราจึงต้องระลึกไว้ว่า “เราต้องเป็นแม่ที่ดีที่สุดในเวอร์ชั่นของเรา” เพราะเงื่อนไขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าเราแบ่งเวลาให้ตัวเองและครอบครัวดี ๆ บางทีลูกเราอาจจะมีเราเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตก็ได้ เพราะเราเชื่อว่ามันไม่สูตรสำเร็จตายตัวว่าแม่แบบไหนคือแม่ที่ดี แต่เราต้องนึกออกว่าดีที่สุดในเวอร์ชั่นของเราเป็นยังไง และสามารถตอบตัวเองได้ว่าเราทำดีที่สุดของเราแล้วหรือยัง

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save