fbpx

อารมณ์แปรปรวนของคุณแม่ท้องที่คุณพ่อต้องเจอ

Writer : Jicko
: 9 ตุลาคม 2563

คุณพ่อที่อยู่ใกล้ชิดขณะที่คุณแม่ตั้งท้องก็คงจะทราบกันดีเกี่ยวกับอารมณ์ของคุณแม่นะคะ เรียกได้ว่าอ่อนไหวสุดๆ ซึ่งมันเป็นปกติเลยโดยเฉพาะช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ค่ะ บางวันก็ดีใจเหลือเกิน บางวันก็เสียใจจนคุณพ่อเองต้องหาวิธีรับมือ เพื่อเตรียมความพร้อมและอยู่เคียงข้างคุณแม่ ซึ่งวันนี้ทาง Parents One ก็ได้รวบรวมสิ่งที่คุณพ่อต้องเจอและวิธีรับมือมาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลย

1.ภาวะซึมเศร้า

คุณแม่ๆ หลายคนคงประสบพบเจอกับภาวะซึมเศร้ากันนะคะ คุณพ่อเองก็น่าจะรู้ดี ซึ่งภาวะนี้จะทำให้คุณแม่ท้องกลายเป็นคนที่ไม่สนุกสนาน เศร้า และฉุนเฉียวง่ายขึ้นมาเลยล่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะคิดฆ่าตัวตายได้เลยนะคะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณพ่อเองก็ต้องคอยดูแลคุณแม่ตลอดเวลา เพราะด้วยปัจจัยหลายอย่าง อาจจะเป็นเพราะคุณแม่ไม่เห็นค่าตัวเอง หรืออยู่ดีๆ ก็รู้สึกไม่ได้อยากตั้งครรภ์ซะอย่างงั้น ยังไงหากมีอาการเช่นนี้อาจจะต้องไปปรึกษาคุณหมอเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

2.วิตกกังวล

ด้วยความเป็นแม่ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังท้องก็มีความกังวลทั้งนั้น ซึ่งสิ่งพวกนี้น่าจะเกิดจากการคาดหวังเกี่ยวกับการเป็นแม่ ทั้งเรื่องว่าจะเป็นแม่ที่ดีได้ไหม จะสามารถเลี้ยงลูกได้ไหม ซึ่งความเครียดเหล่านั้นถ้ามากกว่าปกติ อาจจะเกิดอาการแพนิคได้ด้วย เพราะฉะนั้นคุณพ่อที่พบกับภาวะวิตกกังวลนี้ ก็ต้องเข้าใจคุณแม่ด้วยนะคะ

3.ขี้น้อยใจ

อาการขี้น้อยใจมักจะพบเจอบ่อยๆ สำหรับคุณแม่ท้อง คุณพ่อบางคนก็อาจจะโดนเบื่อขี้หน้า หงุดหงิด บางคนโดนไล่ให้ไปนอนนอกห้องก็ยังมี เป็นเช่นนี้คุณพ่อก็ต้องเข้าใจและทำใจ รออารมณ์ดีกว่านี้ค่อยเข้าไปคุยกันจะดีกว่านะคะ

4.ย้ำคิดย้ำทำเสมอ

อาการนี้ก็มาจากความวิตกกังวลเช่นเดียวกันค่ะ โดยคุณแม่ที่มีอาการนี้จะมีความคิดและการกระทำที่วนไปวนมาเรื่องเดิมซ้ำๆ หรือการถามวนอยู่กับคำถามเดิมซ้ำๆ ซึ่งการย้ำคิดย้ำทำนี้ก็มาจากความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นในฐานะที่เป็นคุณแม่นั่นเองค่ะ

5.เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

คุณพ่อคงเจอกับเหตุการณ์ที่คุณแม่ตั้งท้องอยู่ๆ ก็คุยกันอารมณ์ดีปกติ ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีอารมณ์ซึมเศร้ามาซะอย่างงั้น ซึ่งในหนึ่งวันคุณพ่อก็อาจจะเจอคุณแม่ในหลายๆ เวอร์ชันก็ได้ อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโรคไบโพลาร์ก็ได้ คุณพ่อก็ต้องเข้าใจคุณแม่ท้องด้วยนิดนึงนะคะ อย่าโกรธคุณแม่เลยค่ะ

6.หิวแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคน

เขาบอกว่าคนท้องมักจะหิวอยู่บ่อยๆ ทำให้เวลาคุณแม่ๆ อยู่บ้านก็มักจะต้องมีผลไม้หรือขนมใกล้ไม้ใกล้มือตลอด เพราะหากคุณแม่หิวขึ้นมา บอกได้เลยว่าคุณพ่อได้เจอดีแน่ ยิ่งกว่าเด็กหาของกินไม่เจออีกนะคะ ยังไงดูแลคุณแม่ไม่ให้หิวดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะหาว่าไม่เตือนนะคะ

คุณพ่อต้องรับมืออย่างไร ?

  • คุณพ่อต้องคิดซะว่าที่แม่เป็นแบบนี้ก็เพราะฮอร์โมนนะไม่ใช่นิสัยของแม่ ซึ่งสิ่งที่แม่ทำไปก็อาจจะไม่ได้รู้ด้วยซ้ำค่ะ
  • คอยอยู่เคียงข้างและปลอบใจคุณแม่ทุกเมื่อ ถ้าแม่ต้องการ
  • พยายามเอาใจคุณแม่หน่อย คุณแม่ชอบอะไรก็พยายามทำให้เช่น พาไปดูหนัง พาไปทานข้าวนอกบ้าน พาไปเที่ยวพักผ่อน เป็นต้น
  • พาไปพบแพทย์หรือนักบำบัดด้วยกัน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Dumex.co.th, Pobpad.com

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save