fbpx

วิธีปลดล็อกความอ้วนหลังคลอดไม่ยาก แต่ต้องทำให้ได้

Writer : nunzmoko
: 25 กันยายน 2560

ปัญหาใหญ่ของคุณแม่หลังคลอดคงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำหนักตัวที่เกินกว่าปกติ ทำยังไงก็ไม่ลดสักที ซึ่งคุณแม่บางคนอาจใช้เวลาเป็นปีในการลดน้ำหนักตัวให้กลับมาเท่าเดิมก่อนตั้งครรภ์ บางคนก็ไม่กลับมาผอมเลย ทางด้าน Melinda Johnson โฆษกประจำสมาคมโภชนาการ สหรัฐอเมริกา เผยเคล็ดลับที่ช่วยลดน้ำหนักให้คุณแม่หลังคลอดได้กลับมาใส่กางเกงยีนส์ตัวโปรดได้อีกครั้ง ตามไปดูกันเลยค่ะ

1. ห้ามอดอาหาร

ห้ามอดอาหาร เพราะการอดอาหารจะทำให้คุณกินอาหารไม่เพียงพอ ทั้งๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับบทบาทคุณแม่คนใหม่ โดยให้เปลี่ยนมาเติมพลังด้วยการกินอาหารที่เป็นประโยชน์แทน ไม่กินตามใจปาก ซึ่งการเลือกกินแบบสมดุลแทนการอดอาหารนั้น จะช่วยให้คุณกลับมาสวยได้เหมือนเดิม

2. เลือกอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ

เลือกอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เมื่อคุณเป็นคุณแม่คนใหม่นั้น ร่างกายของคุณยิ่งต้องการสารอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงของการพักฟื้น ดังนั้น คุณแม่ควรเลือกอาหารที่ให้ทั้งพลังงานและไขมันดี เช่น ปลา เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมองและเซลล์ประสาทของเจ้าตัวเล็ก เช่น ปลาแซลมอน ทูน่า ซาร์ดีน นมและโยเกิร์ต ซึ่งอุดมไปด้วยแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูก

3. ให้นมแม่แก่เจ้าตัวน้อย

ให้นมแม่แก่เจ้าตัวน้อย นอกจากจะมีประโยชน์ต่อลูกแล้ว ยังมีการศึกษาพบว่า การให้นมลูกนั้นจะช่วยให้น้ำหนักของคุณแม่ลดลงเร็วขึ้น

4. ดื่มน้ำมากๆ

มีการวิจัยพบว่า การดื่มน้ำปริมาณมากในแต่ละวันจะช่วยให้ระบบเผาผลาญภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ส่วนวิธีดูว่าร่างกายเราดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่นั้น ให้สังเกตสีของปัสสาวะ หากปัสสาวะเรามีสีเข้มหรือขุ่นแสดงว่าเรายังดื่มน้ำไม่มากพอค่ะ

5. เคลื่อนไหวร่างกายสักนิด

ไม่เพียงแต่คุณต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน แต่คุณต้องออกกำลังกายด้วย เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญแคลอรี่ ช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อและกระดูก ช่วยลดความกังวล และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ในปัจจุบันนิยมการเล่นโยคะเพื่อลดน้ำหนักสำหรับคุณแม่หลังคลอด

6. พักผ่อนให้เพียงพอ

เมื่อรู้สึกเหนื่อย ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียดขึ้นมา ซึ่งเป็นสาเหตุให้น้ำหนักตัวเพิ่ม ดังนั้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้ 8 ชั่วโมงต่อวัน โดยมีการศึกษาพบว่า คุณแม่ที่นอนเพียง 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้นขณะตั้งครรภ์ มีโอกาสน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นได้มากกว่าคุณแม่ที่นอน 7 ชั่วโมงต่อวัน

7. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ภาพจาก : fitjuction

ถ้าต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ หรือนักโภชนาการถึงเรื่องวางแผนอาหารการกินในแต่ละมื้อ และอัตราส่วนของน้ำหนักที่เหมาะสมกับแต่ละคน เพื่อความปลอดภัย และหุ่นกลับมาสวยเหมือนเดิมค่ะ

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7  วิธี พิชิตการทานยากของเด็ก
ชีวิตครอบครัว
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save