fbpx

5 เรื่องในการดูเเลลูก ที่คุณแม่มักเข้าใจผิด

Writer : Mookky TCN
: 25 ตุลาคม 2560

จากการที่มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณหมอ เราพบว่ามีความเชื่อหลายเรื่องเลยที่คุณเเม่ๆ มักเชื่อกันฝังใจ ซึ่งไม่เเน่ใจว่าเป็นการส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น หรือรับข้อมูลมาจากที่ไหน เราเลยลองหยิบยกกันมาให้ดูเเล้วอยากบอกว่าที่เข้าใจกันมาตั้งนานนั้นมันไม่ใช่เลยนะ

1. นมมื้อดึกฟันไม่ผุ

เเม่หลายคนเชื่อว่าทานนมไปเถอะไม่ทำให้ฟันผุ โดยเฉพาะนมเเม่ไม่ทำให้ฟันผุแน่นอน ซึ่งไม่จริงเลย เพราะหมอฟันบอกว่าเจอกับเคสฟันผุเยอะมากๆ เพราะความเชื่อที่ว่าทำให้เเม่ๆ หลายคนมักให้ลูกทานนมเเม่เเล้วหลับไปเลย เเละไม่ได้แปรงฟันก่อนนอนจนเป็นสาเหตุทำให้ฟันผุในที่สุด

2. ไม่ต้องชมลูก

บางคนมีความเชื่อแบบดั้งเดิมว่าถ้าชมเเล้วะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กนิสัยเสีย เอาเเต่ใจ จนทำให้ไม่กล้าชมลูก หรือบางทีปัญหาที่พบคือชมไม่เป็น เพราะไม่เคยชมลูกเลย เเต่ในความจริงหากชมเด็กๆ เมื่อพวกเขาทำพฤติกรรมดีๆ ก็จะยิ่งเสริมให้เด็กกลายเป็นดีมากขึ้น

3. ดัดขา

มีความเชื่อว่าถ้าไม่ทำเเล้วลูกจะขาโก่ง เเต่ความจริงตอนคลอดออกมาใหม่ๆ ขาก็จะโก่งอยู่เเล้วเนื่องจากเด็กอยู่ในท้องเเม่ เเต่สักพักขาก็จะตรงเองไปตามธรรมชาติ อีกอย่างที่เจอบ่อยคือ “ดึงดั้ง” ซึ่งอันนี้ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ มารองรับเลย ถ้าอยากทำจริงๆ ก็สามารถทำได้ถ้าทำอย่างละมุนละม่อม ค่อยเป็นค่อยไป เเต่ที่เจอคือบางบ้านค่อนข้างรุนเเรง อย่างเคยมีเคสที่เเม่ดัดขาลูกจนขาหัก ก็อยากให้ระวังกันด้วยค่ะ

4. ทานน้ำเปล่าได้

สำหรับเด็กเล็กอายุก่อน 6 เดือนไม่จำเป็นต้องทานน้ำเปล่า เพราะเด็กจะได้รับน้ำจากนมเเม่เป็นหลักอยู่เเล้ว

5. การทานข้าว


คุณเเม่หลายคนเชื่อว่าก่อนอายุ 1 ปี ข้าวไม่ใช่อาหารหลัก เพราะฉะนั้นจะให้ลูกทานอะไรเท่าไหร่ก็ได้ เเล้วหลังจากอายุ 1 ปีค่อยมาทานข้าวกัน ”  หรือ “มื้อนึงกินได้ 5 ช้อนโต๊ะ,3 ช้อนโต๊ะ ก็พอเเล้ว”  ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการทานข้าวต้องทานเต็มมื้อตั้งเเต่หลัง 6 เดือน จากนั้นปรับเป็นสองมื้อตอนอายุ 8-9 เดือน เเละทานสามมื้อ ตอนลูกอายุ 1 ปี ทำให้คุณหมอมักเจอกับคนไข้ที่ขาดธาตุเหล็กในช่วงอายุ 3 ขวบเเรก เละมีผลทำให้กลายเป็นเด็กไอคิวต่ำในที่สุด

บางความเชื่อนี่เหล่าเเม่ๆ ก็ยังสับสนกันเยอะมาก เเต่พอรู้แบบนี้เเล้วก็อยากให้ลองปรับตามดู เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกนะคะ 😀
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ “เลี้ยงลูกตามใจหมอ

Writer Profile : Mookky TCN

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save