fbpx

7 ขนมไทยแสนอร่อย ที่เด็กอย่างหนูก็ทานได้

Writer : blahblahboong
: 12 เมษายน 2561

ช่วงนี้กระแสอาหารไทย ขนมไทย กำลังมานะคะ ไปตามเทศกาลอาหาร ตามตลาดนัดต่างๆ เราก็เห็นขนมไทยออกมาวางขายล่อตาล่อใจอยู่เรื่อยๆ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างทราบกันดีว่า ขนมไทยบางชนิด มีรสหวานจัด น้ำตาลเยอะ ไม่เหมาะกับเด็กๆ เลย

แต่รู้หรือไม่คะ ขนมแสนอร่อยของไทยนั้น มีอีกหลายชนิดที่เด็กๆ เองก็ทานได้ แต่ต้องเป็นเด็กอายุประมาณ 2 ขวบครึ่งเป็นต้นไปนะคะ เรามาดูกันค่ะ ว่าขนมไทยชนิดใดบ้างที่เหมาะกับเหล่าออเจ้าน้อยๆ ของเรา 🙂

ขนมบ้าบิ่น

ขนมโบราณ รับประทานง่าย รสชาติหอมหวาน มัน ทำจากแป้งผสมกับน้ำตาล และเนื้อมะพร้าวขูด นำไปจี่บนกระทะให้แป้งสุกหอม ได้รสสัมผัสเหนียวนุ่มเจื่อรสหวานอ่อนๆ เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี

ขนมตาล

ขนมสีเหลืองผ่อง ใส่ไว้ในกระทงใบจิ๋วแสนน่ารัก ไม่น่าเชื่อว่าขนมตาลที่ว่าทำมาจาก “ผลตาล” ผสมกับแป้งข้าวเจ้า กะทิ และน้ำตาล นำไปนึ่งจนสุก โรยหน้าด้วยเนื้อมะร้าวขูดฝอย เป็นขนมที่หวานน้อย เนื้อนุ่มฟู สีสันสดใส เหมาะกับเด็กๆมากค่ะ

ขนมเปียกปูน

ขนมไทยดั้งเดิม เราจะเห็นว่ามีขายคู่กันสองสีคือ สีเขียวและสีดำ สร้างความว้าวให้เด็กๆ ด้วยความหนึบหนับของตัวแป้ง รสมันๆ จากน้ำกะทิที่ใส่ลงไป นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสมุนไพรสร้างสีสันในขนม ทำให้ไม่มีสารเคมีมาสร้างความไม่สบายใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ

ครองแครงกะทิ

ขนมหวานสีพาสเทลมุ้งมิ้ง รับประทานแบบอุ่นๆ ได้รสชาติหวานมัน นุ่มหนึบหนับ สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในการกินขนม รู้หรือไม่ สีพาสเทลสวยๆ ของขนมครองแครงนั้น ได้มาจาก ดอกอัญชัน ที่ถือว่าเป็นสีจากธรรมชาติ นอกจากจะสวย อร่อยแล้ว ยังปลอดภัยหายห่วงด้วยค่ะ

ขนมโป๊งเหน่ง

ขนมหลอกเด็กที่จริงเลยค่ะ สำหรับเจ้าขนมโป๊งเหน่งนี้ เพราะด้านนอกเป็นแป้งทอดหนาๆ ส่วนด้านในเป็นเซอร์ไพรส์ ไส้กรอกแสนอร่อยถูกฝังอยู่ด้านใน แต่คุณแม่ต้องคอยจับตาดูเวลาลูกทานนะคะ อย่าให้ทานแป้งด้านนอกมากจนเกินไป จะไม่ดีต่อสุขภาพเอาค่ะ

ขนมครก

ขนมยอดนิยมที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ทำจากกะทิและแป้ง โรยหน้าด้วยธัญพืชต่างๆ แล้วแต่ร้านไหนจะครีเอท มีตั้งแต่ต้นหอม เผือก ข้าวโพด ด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มๆ กรอบๆ และรสชาติหวานมัน ยิ่งทานแบบอุ่นๆ ยิ่งอร่อยค่ะ

ข้าวต้มมัด

ข้าวเหนียวสอดไส้กล้วยห่อด้วยใบตองหนาหลายชั้น มีถั่วดำเพิ่มความกรุบกรอบ ผ่านการทำให้สุกด้วยวิธีการนึ่ง มีรสชาติหวานมัน นุ่มนิ่ม ข้าวต้มมัดจึงเป็นขนมอีกอย่างนึงที่เด็กรับประทานได้แบบสบายๆ เลยค่ะ

Writer Profile : blahblahboong

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7 ประโยชน์ของอาโวคาโด
อาหาร
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save