fbpx

8 ข้อสังเกตที่ทำให้ลูกพูดภาษาต่างดาว

Writer : OttChan
: 1 กรกฏาคม 2562

” อยากทานอะไรคะ ”

” แอลแออ๊อน! ”

” นับเลขสิคะ นี่เลขอะไรถึงเลขอะไรเอ่ย ”

” นึง ฉอง ฉาม อี่อ๊าโวดู ยู~! ”

บางครั้งการสื่อสารของเด็กวัยกำลังพัฒนา นอกจากการแสดงท่าทางแล้วก็ต้องเริ่มรู้จักพูดหรือบอกในสิ่งที่ต้องการให้สมกับวัย ทว่าบางครั้งแม้จะพยายามพูดแล้วก็ยังรู้สึกว่าเป็นภาษาต่างดาว ฟังไม่เข้าใจหรือไม่รู้ถึงสิ่งที่ลูกกำลังสื่อสาร

โดยปกติพัฒนาการพูดของเด็กนั้นจะเริ่มตั้งแต่อายุ 8 เดือน – 1 ขวบครึ่ง เป็นวัยที่เขากำลังจดจำศัพท์และฝึกพูดเป็นคำๆเช่น พ่อ, แม่, หิว, ง่วง, ฉี่และเมื่ออายุขึ้นเป็น 2 ขวบก็จะเริ่มพูดเป็นประโยคสั้นๆ 2 พยางค์ได้ เช่น ไปไหน, หิวข้าว, ไม่ชอบ, จะเอา และในส่วนนี้เองเมื่ออายุมากขึ้น จำนวนคำของของประโยคจะเพิ่มขึ้นตาม เพราะเริ่มมีคลังคำศัพท์ในครวามทรงจำและได้รับการฝึกฝนที่ถูกวิธี

แต่ถ้าหากเข้าใกล้อายุครบ 2 ขวบแล้วยังพูดไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่อง ชอบพูดต่างดาวใส่ก็เริ่มจะน่าเป็นห่วง ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเพราะมันเกี่ยวกับการพัฒนาของลูกน้อย ที่ต้องสังเกตและเอาใจใส่ใจ ถ้าไม่ได้ระวังหรือปล่อยผ่านไป อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้เมื่อเขาโตขึ้นค่ะ

วันนี้ทาง Parents One จะมาแยกการใช้ภาษาต่างดาว ว่ามีเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างแล้วควรจะรับมือต่อการพูดภาษาต่างดาวของลูกอย่างไรบ้างนะคะ

ไปดูกันเลย

อะบาอิวี ดูว ยูว~!

1. พ่อแม่สนุกสนานกับการที่ลูกพูดภาษาต่างดาว

ไม่มากก็น้อยเวลาที่เราเห็นลูกพูดแล้วเป็นคำแปลกๆที่ไม่เข้าใจ คุณพ่อคุณแม่มักจะรู้สึกเอ็นดูและอยากเล่นกับลูกด้วยการพูดเลียนแบบเขา เช่นพูดไม่ชัดตาม พูดภาษาต่างดาวในการโต้ตอบซึ่งนานๆครั้งแล้ว มีการหยอกเล่นก็ดูจะเป็นสีสันของบ้าน แต่หากสังเกตได้ว่าลูกเริ่มจะติดพูดต่างดาว ไม่ชอบพูดเป็นคำและเริ่มที่จะสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยคำที่ไม่มีความหมาย นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ลูกน้อยเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่เขาพูดอยู่นั้นถูกต้องและได้รับการสนับสนุนว่านี่คือสิ่งที่พ่อแม่ชื่นชม

วิธีแก้ปัญหา

พูดคำศัพท์ที่ถูกต้องให้ฟังอยู่เสมอ แม้ลูกจะภาษาต่างดาวมาหรือพูดคำเว้นคำพูดไม่ชัด แต่ก็ต้องย้ำให้ถูกต้องชัดเจนพร้อมทำรูปปากให้เห็นเป็นตัวอย่าง เช่น

” กินข้าวหรือยังคะ ”

” อีแอ๊ว ”

” กินแล้วนะคะ หนูกินข้าวแล้วนะคะ ”

ใช้วิธีย้ำคำที่ถูกเพื่อฝึกให้เขาได้จดจำคำศัพท์และการออกเสียงเป็นประจำ ก็จะช่วยให้เขาสามารถเรียนรู้และเลียนแบบตามเราได้ไม่ยาก

2. ใช้เวลาอยู่กับโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้าถึงทุกกลุ่มวัยไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ การเข้าถึงสื่อต่างๆถือว่าเป็นเรื่องที่รวดเร็วมากจนบางครั้งเราเองตามไม่ทัน อย่างในกรณีที่ปล่อยลูกไว้กับสื่อมากเกินไปอาทิ เปิดการ์ตูนให้ดูทั้งวันเพราะไม่มีเวลาเล่นด้วย, เวลาลูกร้องก็รีบยื่นมือถือหรือไอแพตให้เพื่อช่วยให้ไม่งอแง ซึ่งผลกระทบต่อการทำอยู่ซ้ำๆจะทำให้ตัวเด็กรับการสื่อสารได้แบบฉาบฉวย เลียนแบบการพูดเร็วๆของตัวการ์ตูนหรือภาพที่ผ่านตาไปมา จึงทำให้ไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำได้ และยังทำให้เกิดปัญหาสมาธิสั้นเพราะไม่สามารถจดจ่ออยู่กับอะไรได้นานอีกด้วย

วิธีแก้ปัญหา
  • จำกัดเวลาในการเล่นมือถือและ ดูโทรทัศน์ให้ชัดเจนว่าควรไม่เกินกี่นาที
  • พยายามบอกตนเองอยู่เสมอว่าอย่าแก้ปัญหาลูกงอแง ด้วยการยื่นมือถือหรือไอแพตให้เพราะจะทำให้พัฒนาการของลูกช้า
  • หาเวลาว่างให้ตนเองได้มีเวลาพูดคุย และสอนลูกพูดด้วยตนเอง
  • เวลาพูดขยับคุบขยับรูปปากให้ชัดเจน เพื่อให้เด็กได้สังเกตถึงการพูดที่ถูกวิธี

 

3. รู้คำศัพท์น้อย

ในบางครั้งลูกน้อยก็ออกเสียงได้บ้างแล้ว เริ่มพูดเป็นคำได้แต่จู่ๆก็มีหลุดภาษาต่างดาวออกมาอีก เช่นคุณพ่อถามถึงของเล่นที่ถูกเก็บอยู่ในตระกร้า

” ในตระกร้ามีอะไรครับ บอกพ่อซิ ”

” ตุ๊กตา… ”

” ตุ๊กตาแล้วมีอะไรอีกครับ นี่อะไรครับ ”

” ตุ๊กตาอะ$%@ แล้ว แล้ว $# ตุ๊กตา ”

เหตุที่บางคำก็ชัดเจนและเหมือนจะเข้าใจ แต่บางคำฟังแล้วก็ไม่รู้ว่ากำลังสื่อสารถึงอะไรอยู่ นั่นเป็นเพราะว่าคลังคำศัพท์ในความจำของเขา ยังมีน้อยและรู้ไม่มากพอจึงทำให้พอต้องพูดถึง สิ่งที่เห็นผ่านตาแล้วรู้ว่าเอาไว้ทำสิ่งใดแต่ไม่รู้ว่ามันมีชื่อเรียกอะไร ก็มักจะสร้างศัพท์ขึ้นมาเองแบบที่ตนเข้าใจ และเอาไว้เรียกแบบนั้นโดยไม่รู้ว่าแบบไหนถูกและผิด เพราะหากนึกคำไม่ออกหรือไม่สามารถสื่อสารได้ เด็กมักจะเกิดความหงุดหงิดและกระจองอแง

วิธีแก้ปัญหา
  • เมื่อรู้ว่าคำไหนของลูกที่ยังไม่รู้ก็ทำการสอนในทันที เช่นการชี้ให้ดูสิ่งของหรือสัตว์ต่างๆพร้อมสอนออกเสียงให้เขาจดจำ
  • เวลาถูกถามต้องตอบเสมอเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์เพิ่ม
  • อย่าทำทีรำคาญหรือดุด่าว่าผิด เพราะเขาไม่รู้ว่าคำไหนคือคำที่ถูกต้อง พยายามสอนและบอกลูกให้ใช้ศัพท์ใหม่อย่างถูกต้องไม่เอาศัพท์ที่ตั้งขึ้นมาเอง

4. สอนลูกหลายภาษาพร้อมๆกัน

การที่เด็กๆได้เรียนรู้ภาษาที่สองได้เร็วนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่อาจทำให้ความจำของเขาสับสนได้ อย่างข้อแรกๆที่มีบอกไปแล้วว่าคลังศัพท์ของเขาไม่พอ ในกรณีนี้คือมีคำศัพท์มากเกินไปเพราะได้รับการเรียนรู้มาหลายภาษา จึงทำให้บางครั้งไม่สามารถสลับคำมาใช้ได้ทันจนกลายเป็นการผสมคำบ้าง พูดเร็วจนไม่มีความหมายบ้างและกลายเป็นภาษาต่างดาวในที่สุด

วิธีแก้ไขปัญหา

ในการเรียนรู้นั้นต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป สอนภาษานึงของลูกให้แข็งแรงดีก่อน แล้วจึงเริ่มเรียนอีกภาษาเพื่อที่จะได้ช่วยให้ความจำของลูกนั้น จัดเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระบบและไม่กระจัดกระจาย ถ้าหากทำได้สำเร็จจะไม่ใช่เพียงช่วยเรื่องการพูดภาษาต่างดาว แต่จะช่วยให้เขาเรียนรู้ภาษาได้อย่างถูกต้อง และสามารถนำไปใช้จริงได้อีกด้วย

 

5. ไม่มีเวลาให้ลูก ปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง

มีหลายบ้านที่คุณพ่อคุณแม่ติดทำงานทั้งคู่ จึงมักจะปล่อยให้ลูกอยู่ลำพังหรือมากสุดก็ได้อยู่ในความดูแลขอญาติหรือพี่เลี้ยงที่จ้างไว้ ซึ่งในส่วนนี้จึงทำให้เราคลาดสายตาจากลูกไปว่าในแต่ละวันเขาได้พูดคุยกับใครบ้างหรือเปล่า รึได้เรียนรู้อะไรบ้าง จึงกลายเป็นปัญหาที่เราคาดไม่ถึงได้ เช่นลูกอาจจะไม่ได้มีใครคุยด้วยจนเขาไม่รู้วิธีสื่อสารกับคนอื่น หรือไม่รู้แม้แต่ว่าสิ่งต่างๆนั้นมีชื่อหรือถูกเรียกว่าอะไรจึงถูกต้อง พอได้มีเวลาอยู่ด้วยกันก็กลับกลายเป็นว่า พูดไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถบอกความต้องการกับพ่อแม่ได้ในที่สุด

วิธีแก้ปัญหา
  • พยายามหาเวลาในการพูดคุยกับลูกให้มากขึ้น
  • เตรียมตัวทุกครั้งหลังกลับจากที่ทำงานว่าจะมีสอนคำศัพท์ใดบ้าง เพื่อให้ลูกมีการเรียนรุ้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เช่น วันนี้จะสอนให้รู้จักสัตว์ พรุ่งนี้สอนเรื่องคำกริยา มะรืนสอนเรื่องของใช้
  • ขอความร่วมมือจากญาติหรือคนที่ดูแลว่าให้ช่วยสอนพูดคุยกับลูกอย่างถูกต้อง เพื่อฝึกพัฒนาการของเขาให้ได้เรียนรู้อยู่สม่ำเสมอ

 

 

6. มีปัญหาครอบครัว

การขึ้นเสียงของพ่อแม่หรือการทะเลาะเบาะแว้งที่มีทั้งเรื่องเล็กน้อยไปจนเรื่องใหญ่โต ทุกอย่างกระทบกระทั่งกันนั้นส่งผลถึงตัวลูกหมด เมื่อเขาเกิดความรู้สึกเครียดหรือกดดันจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การพูดที่ควรจะได้รับการพัฒนาที่ดี ก็ไม่สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ มีการพูดผิดๆถูก หรือๆรึบางทีอาจกลายเป็นไม่ยอมพูดไปเลยไม่ว่าจะกลับใคร เพราะกลัวว่าการพูดหรือโต้ตอบออกไปจะถูกตวาดหรือตะคอกกลับมา

วิธีแก้ปัญหา
  • หากรู้ว่าการโต้เถียงอาจจะนำไปสู่การทะเลาะรุนแรง ให้หลบมุมไปอยู่คนละที่เพื่อสงบสติอารมณ์
  • ถ้าลูกมาพบเข้าในตอนที่กำลังพูดจารุนแรง ให้หยุดแล้วพยายามอธิบายถึงสิ่งที่พบเจอหรือปลอบโยน ให้เขารู้สึกสบายใจขึ้น

7. มีความผิดปกติทางร่างกาย

ดูแล้วก็สอนครบทุกอย่างแต่ก็ยังพูดภาษาต่างดาว พูดไม่ชัดหรือหนักมากคือไม่ยอมพูดเลย ให้ลองสังเกตดูว่าลูกน้อยมีความผิดปกติทางร่างกายรึเปล่า ไม่ว่าจะเป็น หูหนวก, ลิ้นไก่สั้นหรือปัญหาทางระบบประสาท ที่ทำให้เป็นโรคสมาธิสั้นหรือออทิสติก เพราะบางครั้งเราอาจจะไม่ทันได้สังเกต เพราะคิดว่าเป็นการพัฒนาการปกติของเขาแต่จริงๆแล้วอาจไม่ใช่

วิธีแก้ปัญหา

เมื่อเล็งเห็นแล้วว่าพัฒนาการของเขาไม่ปกติ ควรรีบนำลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาและการดูแลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังต้องตามดูอาการอยู่เสมอเพื่อสังเกตพัฒนาการ และความเปลี่ยนแปลงด้วย

8.เป็นทางพันธุกรรม

ในเรื่องนี้เองเป็นสิ่งที่ช่วยได้ยากสุดแต่ก็เป็นปัญหาที่น่ากังวลน้อยสุดแล้ว กับการติดต่อทางกรรมพันธุ์ ไม่จำเป็นต้องเป็นคุณพ่อคุณแม่แต่อาจจะเป็นญาติหรือรุ่นปู่ย่าตายาย ที่พูดได้ช้าหรือพูดน้อยและพูดภาษาต่างดาว เมื่อมาสู่รุ่นลูกหรือหลานนั้นก็เป็นธรรมดา ที่จะมีอาการตามซึ่งวิธีแก้ไขนั้นไม่มีอะไรมาก นอกจากเสริมทักษะการเรียนรู้แบบปกติอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อถึงเวลาที่สมควรเขาก็จะเริ่มพูดและสื่อสารได้เองเป็นปกติค่ะ

ที่มา : thairath, youtube, baby.kapookfacebook

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save