fbpx

หนูไม่กิน! สุดยอดเทคนิค ช่วยให้ลูกเจริญอาหาร

Writer : blahblahboong
: 14 พฤศจิกายน 2561

“ลูกกินยาก” ปัญหาโลกแตกที่คุณแม่ทุกบ้านต้องเคยเจอ ยิ่งเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตแล้วด้วย จะปล่อยไว้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวลูกจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โตไม่ทันเพื่อนอีก วันนี้เรามีสุดยอดเทคนิคมานำเสนอ ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ รับรองเปลี่ยนจากเด็กกินยาก กลายเป็นสุดยอดนักกินตัวน้อยแน่นอน

สร้างบรรยากาศบนโต๊ะให้ครื้นเครง

บรรยากาศเป็นเรื่องสำคัญของการทานอาหาร การไม่นำเรื่องเครียดๆ มาพูดคุยกันระหว่างทานอาหารมีส่วนช่วยให้เด็กรู้สึกดีกับการทาน และมีความสุขทุกครั้งที่ได้นั่งร่วมกันบนโต๊ะทานข้าว

เพิ่มความหลากหลายของเมนู

ผลัดเปลี่ยนเมนูอาหารในแต่ละวันบ้าง เพื่อสร้างสีสรรความแปลกใหม่ในรสชาติ อาจจะเริ่มจากการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของอาหาร หรือหั่นผักในรูปแบบใหม่ๆ

เลี่ยงขนมก่อนอาหารมื้อหลัก

บ่อยครั้งที่ลูกมีอาการอิ่มก่อนที่จะได้ทานอาหารมื้อหลัก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญในเรื่องของเวลาในการให้ลูกทานขนมแต่ละครั้ง หากลูกทานขนมมากเกินไปในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับมื้อหลัก จะทำให้เด็กๆ ไม่หิว และไม่มีความอยากทานอาหารมื้อสำคัญ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่า

ไม่บังคับ เมื่อลูกกินอิ่มแล้ว

ถ้าหากว่าลูกอิ่มแล้วจริงๆ เราไม่ควรบังคับคะยั้นคะยอให้ลูกทานอาหารจนหมด เพราะจะทำให้เด็กเกิดความฝังใจไม่ชอบและปฏิเสธอาหารชนิดนั้นในอนาคต

ให้ทุกคนกินเหมือนกัน

เป็นธรรมดาที่เด็กมักจะชอบเลียนแบบผู้ใหญ่ อาหารการกินก็เช่นกัน ถ้าเด็กได้ทานอาหารที่คล้ายคลึงกับผู้ใหญ่ จะรู้สึกดีเหมือนได้เติบโตขึ้นมาแล้ว เป็นอีกหนึ่งวิธีหลอกล่อให้หนูๆ ทานอาหารค่ะ

ลองให้ลูกทำกับข้าวเอง

หากเค้าได้ลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง จะทำให้เค้าได้รู้ว่า กว่าจะได้อาหารแต่ละจานมานั้น คุณแม่ต้องเหนื่อยยากขนาดไหน ทำให้เค้ารู้คุณค่าของอาหารแต่ละมื้อ อีกทั้งยังสร้างความภูมิใจตัวเองอีกด้วยค่ะ

อย่ายอมแพ้

ในกรณีที่ลูกไม่ยอมทานอาหารเลย คุณแม่อย่าเพิ่งยอมแพ้ไปค่ะ ลองเริ่มจากอาหารชิ้นเล็กๆ สัก 1 – 2 ชิ้น ค่อยๆ ให้ลูกทดลองชิมไปเรื่อยๆ จนเค้าเริ่มเปิดใจรับประทานได้ด้วยตัวเอง

Writer Profile : blahblahboong

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



9 ประโยชน์ของการให้ลูกเข้าครัว
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save