fbpx

6 วิธีแก้ปัญหา เมื่อลูกมีอาการละเมอแบบรุนแรง

Writer : giftoun
: 23 พฤษภาคม 2562

การที่ลูกนั้นนอนละเมออย่างรุนแรงจะสามารถแสดงอาการได้หลากหลายด้วยกัน เช่น ลุกขึ้นนั่งบนเตียง เดินไปเข้าห้องน้ำ ขับถ่ายไปจนถึงทำความสะอาดร่างกาย เดินขึ้น-ลงบันได หยิบข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เป็นต้น ถ้าลูกทำโดยไม่รู้ตัวจะยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่เลยล่ะค่ะ แล้วจะมีวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับการละเมอได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

นอนหลับให้เพียงพอ

การให้ลูกนอนหลับอย่างเพียงจะสามารถลดอาการละเมอได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้พยายามให้ลูกเข้านอนในเวลาเดิมทุกๆ คืนจะยิ่งดีค่ะ

เก็บของมีคมหรือของที่มีอันตราย

เมื่อลูกนอนละเมอนั้นอาจจะทำอะไรโดยไม่รู้ตัว คุณแม่ควรจัดการสภาพแวดล้อมโดยรอบให้มีความปลอดภัย เช่น เก็บของมีคมหรือของที่มีอันตรายต่างๆ รวมถึงจัดการเก็บข้าวของในบ้านที่แตกหักง่ายหรืออาจมีอันตรายกับลูกค่ะ

ล็อกประตูและหน้าต่างก่อนนอน

การล็อกประตูและหน้าต่างก่อนนอนให้เรียบร้อยก่อนนอน จะทำให้ลูกน้อยปลอดภัยมากขึ้น เมื่อเดินละเมอแล้วจะไม่เดินออกนอกห้องไปที่อื่น จะทำให้คุณแม่ดูแลได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ

ไม่ให้นอนเตียงชั้นบน

คุณแม่ควรไม่ให้ลูกที่นอนละเมอนอนชั้นบนของเตียง 2 ชั้น เพราะลูกพร้อมที่จะลุกออกจากเตียงได้ทุกเมื่อ ถ้าอยู่บนเตียงชั้น 2 อาจจะเกิดอุบัติเหตุจนบาดเจ็บได้ค่ะ

สร้างความผ่อนคลายก่อนนอน

คุณแม่สามารถพูดคุย หยอกล้อกับลูก หรือหานิทานน่ารักๆ สนุกสนาน มาเล่าให้ลูกฟังก่อนนอน ทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายก่อนเข้านอนได้ค่ะ

พาเข้าห้องน้ำก่อนนอน

คุณแม่สามารถพาลูกเข้าห้องน้ำก่อนนอน แล้วฝึกการขับถ่ายก่อนนอนให้เสร็จเรียบร้อยทุกวัน เพราะบางครั้งการละเมอก็เริ่มต้นจากการปวดปัสสาวะหรืออุจจาระก็เป็นได้ค่ะ

เมื่อลูกน้อยเริ่มละเมอ เบื้องต้นขอให้คุณแม่สังเกตว่าละเมอสัปดาห์ละกี่ครั้ง ถ้าพบว่าลูกละเมอ 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้นเป็นระยะๆ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดค่ะ

ที่มา

 

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



อยากพาลูกไปกางเต้นท์ เตรียมตัวอย่างไรดี
กิจกรรมของครอบครัว
เด็กวัยเข้าโรงเรียน เด็กวัยเข้าโรงเรียน
14 พฤศจิกายน 2560
กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
24 ธันวาคม 2561
5 ขั้นตอนฝึกลูกนอนหลับให้เป็นเวลา
กิจกรรมของครอบครัว
เริ่มให้ลูกฝึกปั่นจักรยานตอนไหนดี?
กิจกรรมของครอบครัว
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save