fbpx

คุณแม่เคยแท้งลูก แต่ก็ยังมีลูกได้นะ

Writer : giftoun
: 12 กรกฏาคม 2561

คุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์แท้งลูกอาจจะมีความกังวลเรื่องการมีลูกอีกครั้งแน่นอน อันที่จริงแล้วคุณแม่สามารถมีลูกได้อีกครั้งถ้าเกิดดูแลตัวเองให้ดีได้ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ

การแท้งลูกเกิดจากอะไร

  • โครโมโซมผิดปกติ
  • มดลูกผิดปกติและปากมดลูกหลวม
  • ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
  • โรคไทรอยด์ต่างๆ ทั้งภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ และภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ และโรคเบาหวาน
  • ภาวะรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย
  • ไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ (สูบบุหรี่ กินเหล้า เมายา และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ)

ทำอย่างไรดีนะถ้าเคยแท้งลูก??

นั่งสมาธิ

การนั่งสมาธิจะทำให้จิตใจสงบยิ่งขึ้น แล้วจะทำให้คุณแม่นั้นนิ่งขึ้น มีสติมากขึ้น เวลามีความคิดที่ไม่ดีเข้ามาจะขจัดออกได้ไวขึ้น เมื่อสุขภาพจิตดีแล้ว สุขภาพกายก็จะดีตามมา แล้วจะมีน้องได้ไม่ยากเลยค่ะ

ฟังเพลง

การฟังเพลงเป็นการผ่อนคลายแบบหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวไหนก็ตาม ขอให้เป็นเพลงที่คุณแม่ชอบ ก็ทำให้คุณแม่ไม่เครียดและมีผลให้ท้องง่ายขึ้นค่ะ

ควบคุมน้ำหนัก

ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากคุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมน และนำไปสู่ภาวะมีลูกยากได้ค่ะ

รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

การรัปประทานอาหารที่มีประโยชน์และถูกหลักโภชนาการนั้นจะทำให้ร่างกายของคุณแม่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ควรเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติด ลดปริมาณการได้รับคาเฟอีน และหยุดสูบบุหรี่จะดีที่สุดค่ะ

ออกกำลังกาย

ออกกำลังกายจะทำให้ร่ายกายคุณแม่นั้นฟิตแข็งแรง โดยไม่ควรหักโหมออกกำลังกายมากเกินไป ทั้งนี้ การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้มากขึ้นค่ะ

ตรวจเช็คร่างกายสม่ำเสมอ

ขั้นตอนของการตรวจเช็คร่างกายถือว่าสำคัญสำหรับคุณแม่มาก จะได้คอยเช็คว่าคุณแม่พร้อมจะมีลูกหรือยัง อีกทั้งเป็นการประเมินภายในตัวด้วยว่าคุณแม่ได้ดูแลร่างกายดีแล้วหรือยังค่ะ

หมั่นปรึกษาแพทย์

หากมีลูกยากจริงๆ แล้วอยากมีลูก แนะนำให้ไปปรึกษาสูตินรีแพทย์ที่รักษาเกี่ยวกับการมีบุตรยาก เพื่อค้นหาหาเหตุของการมีลูกยากและรักษาให้ตรงจุดจะเหมาะสมที่สุดค่ะ และไม่ต้องกังวลจนเกินไปเพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีดีๆ มากมาย ที่ช่วยในการมีลูก เห็นได้ว่าการมีลูกของคุณแม่นั้นต้องอาศัยทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจเลยทีเดียว ยังไงขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนนะคะ สู้ๆ นะคะ

ที่มา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



สิทธิประโยชน์ “ฝากครรภ์ฟรี” ปี 60
ข้อมูลทางแพทย์
เตรียมตัวเป็นแม่ เตรียมตัวเป็นแม่
25 กันยายน 2560
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save