fbpx

ทานเนื้อปลาอะไรดีนะ ? คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทานปลาอะไรให้มีสุขภาพดีทั้งแม่และลูก

Writer : Jicko
: 21 สิงหาคม 2562

ช่วงขณะตั้งครรภ์ คุณแม่หลายต่อหลายท่านก็อยากจะหาของดีๆ มาบำรุงร่างกายของตัวเองและลูกในครรภ์ ซึ่งคุณหมอมักจะบอกกับคุณแม่ๆ ให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะ “เนื้อปลา” เพราะเจ้าเนื้อปลานี้มีโปรตีนที่คุณแม่รับประทานแล้ว ทำให้ท้องไม่อืด และยังมีช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อยเช่นเดียวกันค่ะ

ซึ่งวิธีการเลือกเนื้อปลาสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นควรจะเลือกอย่างไร แล้วควรหลีกเลี่ยงเนื้อปลาประเภทไหน วันนี้ parentsone จะพาคุณแม่ไปตะลุยแดนปลา เพื่อหาปลาที่มีประโยชน์และปลอดภัยสำหรับคุณแม่ๆ กันค่ะ ไปดูกันเลย

เนื้อปลาอุดมไปด้วย กรดไขมัน โอเมกา3 DHA และ EPA  ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประโยชน์ต่อคุณแม่แล้ว เนื้อปลายังมีสารอาหารที่สำคัญต่อลูกที่เกิดมา และทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีกว่าลูกที่ไม่ค่อยได้ทานเนื้อปลา

คุณแม่ต้องทานปลาอะไร

ปลาทุกชนิดก็ใช่ว่าจะคุณแม่ๆ ที่ตั้งครรภ์อยู่จะสามารถรับประทานได้หมดอย่างปลอดภัย สิ่งที่ต้องระวังมากๆ ก็คือ อาหารทะเลทุกอย่าง มีโอกาสปนสารโลหะหนัก ซึ่งปนเปื้อนมาจากโรงงานใกล้แหล่งน้ำต่างๆ ซึ่งจะสะสมในตัวปลา ทำให้ปลาต่างๆ มีโอกาสได้รับสารหรือปนเปื้อนสารพวกนี้จากโรงงานได้ เพราะฉะนั้นคุณแม่ๆ ทั้งหลายก็ควรเลือกรับประทานปลาที่มีสารปรอทในปริมาณที่ต่ำๆ นั้นเองค่ะ

คุณแม่ต้องทานปลาเยอะแค่ไหน

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานเนื้อปลา โดยปริมาณที่ทานต่อครั้งง่ายๆ ก็คือ ขนาด 1 อุ้งมือนั้นค่ะ

เนื้อปลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทาน 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

  • ปลาแซลมอน
  • ปลาทู
  • ปลากะพงดำ
  • ปลาหิมะ
  • ปลาดุกทะเล
  • ปลาจะละเม็ด
  • ปลาลิ้นหมา

 

เนื้อปลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทาน 1 ครั้ง/สัปดาห์

  • ปลาเก๋า
  • ปลากะพงแดง
  • ปลามากุโร่ (อาหารญี่ปุ่น เช่น อากามิ,ชูโทโร่,โอโทโร่)

 

เนื้อปลาที่ไม่แนะนำให้ทาน

ปลาทุกชนิดใช่ว่าจะปลอดภัยสำหรับคุณแม่ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์นะคะ เพราะบางตัวก็มีสารปนเปื้อน อย่างเช่น สารปรอท ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อระบบประสาทของลูกน้อย และอาจทำให้เกิดปัญหาด้านพัฒนาการของลูกน้อยหลังคลอดได้ เนื้อปลาที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่

  • ปลาอินทรี
  • ปลาฉนาก (ปลาดาบ)
  • ปลาฉลาม

 

ปลาน้ำจืดทานได้หรือไม่

ปลาน้ำจืดคุณแม่ๆ สามารถทานได้นะคะ เช่น ปลาดุก ปลาช่อน ปลาสวาย โดยเฉพาะถ้าเป็นปลาเลี้ยงจะพบว่ามีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สูง (ได้กรดไขมันโอเมก้า-3 ผ่านทางอาหารที่ใช้เลี้ยงปลา) สามารถทานแทนปลาทะเลได้เช่นเดียวกันค่ะ

ปลาดิบทานได้หรือไม่

ทานได้ค่ะ แต่เลือกทานปลาอย่างเช่น แซลมอนทานได้ แต่ปลามากุโร่จะไม่อยากให้ทานเยอะ และต้องมั่นใจว่าปลาที่นำมาทำอาหารผ่านการแช่แข็งมาแล้ว เพราะการแช่แข็งจะทำให้พยาธิที่อยู่ในตัวปลาตาย ถ้าคุณแม่บางคนอยากทำซูซิ/ซาเซมิทานเองที่บ้าน แนะนำว่าให้แช่แข็งเนื้อปลาอย่างน้อย 4 วันค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Paya Thai Hospital

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



มีบุตรยาก แก้ไขอย่างไรได้บ้าง
ข้อมูลทางแพทย์
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save