fbpx

8 ความเชื่อโบราณ ที่ต้องระวังสำหรับคุณแม่มือใหม่

: 17 กรกฏาคม 2560

 

เชอรี่เชื่อว่าหลายครอบครัวคงเจอปัญหากับคนสมัยก่อนเรื่องการเลี้ยงลูก เราเป็นคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ศึกษาข้อมูลการเลี้ยงลูกกันมาพอสมควร พอเจอทฤษฎีรุ่นเก่า บางบ้านถึงกับทะเลาะกันเลยก็มี

ด้วยประโยคยอดฮิต “เลี้ยงมาไม่รู้กี่คนแล้ว” “ทำแบบนี้ตลอดไม่เห็นจะเป็นอะไร” คือถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าโชคดีมากที่ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าพลาดไปถึงชีวิต ไม่มีใครรับผิดชอบได้ เรามาดูกันว่าทฤษฎีรุ่นเก่าที่มีความเชื่อผิดๆ มีอะไรกันบ้าง เพื่อจะได้ป้องกันไม่นำมาใช้กับลูกเราให้เกิดอันตรายกันค่ะ

1. ป้อนกล้วย

ภาพจาก amarinbabyandkids

ลูกจะได้จ้ำม่ำ แข็งแรง ไม่ร้องหิว มันอยู่ท้อง อิ่มแล้วนอนนาน อันนี้อย่าป้อนเด็ดขาดนะคะ เพราะลำไส้ของลูกยังทำงานได้ไม่เต็มที่ เห็นข่าวป้อนกล้วยแล้วเด็กลำไส้อุดตันต้องตัดลำไส้ เสียชีวิตจากการป้อนกล้วยมาก็เยอะ ท่องไว้ค่ะ “6 เดือนแรกอย่าป้อนอะไรนอกจากนม”

2. เอาฉี่ป้ายปาก

ภาพจาก All MOMs Club

ลิ้นจะได้ไม่เป็นฝ้า ฉี่คือของเสียที่ร่างกายขับออกมา แต่คนโบราณยังเอามาป้ายลิ้น เห็นไม่น้อยนะคะที่มันลามจนเป็นเชื้อราในปากถึงขั้นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกันเลยทีเดียว

3. กินน้ำป้องกันตัวเหลือง

เด็กจะตัวเหลืองไม่เหลือง เมื่อไหร่ที่ลูกตัวเหลือง คุณหมอจะแนะแนวทางการรักษาที่ถูกต้องให้เองค่ะ ในกรณ๊ที่สารเหลืองมีค่าเหลืองสูง ทางโรงพยาบาลจะแนะนำให้เข้าตู้อบส่องไฟ ถ้าเหลืองไม่มาก แค่ให้ลูกดูดนมแม่เร็วที่สุด จะช่วยขับสารสีเหลืองออกไปได้เองค่ะ

4. ดัดขา

ภาพจาก rakluke

เด็กจะขาโก่งหรือไม่โก่ง คุณหมอจะบอกเราเอง ที่ขาเด็กมีความโค้งงอเป็นเพราะเค้าอยู่ในท้องเราแบบนี้มาตลอด ผ่านไปนานๆ ขาจะตรงสวยปกติเองค่ะ ไม่ต้องดัดใดๆ ทั้งสิ้น เคยเห็นข่าวว่าถูกดัดขาจนหักต้องเข้าเฝือกเลยก็มี สงสารเด็กจัง หนูไม่รู้อะไร อย่ารังแกหนูเลย

5. ป้อนสมุนไพร

เป็นยารักษาครอบจักรวาล บอกว่ากินแล้วลูกจะไม่ท้องอืด ไม่งอแง ปรับลำไส้ มีความอันตรายมากเลยค่ะ รักลูก ต้องปกป้องลูก อย่าให้ลูกกินเด็ดขาดนะคะ

6. โรคซาง

ภาพจาก amarinbabyandkids

โรคซางทางวิทยาศาสตร์ไม่มีนะคะ แต่เป็นโรคที่คนโบราณคิดค้นขึ้นมาเอง ถามกี่คน อาการก็จะไม่เหมือนกันสักคน ถ้าลูกเล็กป่วย หาหมอ เชื่อหมอดีที่สุดค่ะ

7. หมอผี

ลูกร้องไห้ไม่หยุด หาสาเหตุไม่เจอ อาจจะเป็นโคลิคหรือปวดท้อง ไม่สบายท้อง ไม่ใช่ไปเชื่อไสยศาสตร์ บ้านไหนหนักๆ หน่อยก็จะให้หมอผีทำพิธี เคี้ยวยา พ่นอะไรไม่รู้ใส่หน้าลูก ทำให้เป็นผื่นแพ้ ไม่สบายจากสิ่งที่พ่นมามากกว่าค่ะ

8. กินนมกระป๋องดีกว่า

จะได้จ้ำม่ำ อยู่ท้อง อิ่ม หลับได้ยาว เชอรี่หลายบ้านก็เจอปัญหานี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก่อนในช่วงแรก แต่พอเผลอ ถูกชงนมให้ลูกกินจนอิ่มก่อนทุกที

เดี๋ยวนี้มีข้อมูลการเลี้ยงลูกให้ศึกษามากมายหลายช่องทาง รักลูกต้องเลี้ยงลูกให้ถูกวิธี เชื่อหลักการแพทย์ดีที่สุดค่ะ ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงลูกทุกคนนะคะ 🙂


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



เคล็ดลับฝึกลูกให้มีสมาธิ
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save