fbpx

โภชนาการอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เลือกทานให้ถูกลูกยิ่งได้เยอะ

Writer : Jicko
: 18 พฤษภาคม 2564

สำหรับคุณแม่ๆ มือใหม่คงจะทราบกันดีนะคะว่า ในแต่ละวันเราเองควรที่จะได้รับสารอาหารมากกว่าคนปกติ เพื่อให้ร่างกายเกิดความสมบูรณ์ และสารอาหารส่วนหนึ่งก็จะถูกส่งต่อให้กับลูกในท้องตลอดทั้ง 9 เดือนอีกด้วย

เรามาดูกันเลยค่ะว่าอาหารในแต่ละวันที่คุณแม่ๆ ควรจะได้รับนั้นมีปริมาณเท่าไหร่บ้าง และอาหารประเภทไหนควรหลีกเลี่ยงบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

โภชนาการอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ใน 1 วัน

  • ควรทานอาหารให้ครบ 6 กลุ่ม
  • ทานข้าวเป็นอาหารหลัก เน้นข้าวกล้อง ข้าวขัดสีน้อย สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
  • ทานพวก ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นประจำ
  • ทานผักและผลไม้หลากสีอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงผลไม้รสหวานจัด
  • ดื่มนมรสจืด และทานอาหารที่เป็นแหล่งแคลเซียมอื่นๆ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เค็มจัด หวานจัด ให้ใช้เครื่องปรุงรสเต็มเสริมไอโอดีน
  • ทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงของหมักดอง

คุณแม่ควรเพิ่มน้ำหนักตัวยังไงให้เหมาะสม

ดัชนีมวลกาย(BMI) = น้ำหนักตัว (กก.)  ÷ ความสูง(เมตร ยกกำลัง 2)

เมื่อได้ดัชนีมวลกายมาแล้ว ก็นำมาเปรียบเทียบกับช่องตารางนี้ได้เลยค่ะ เช่น หากคำนวณได้ BMI 20 น้ำหนักตัวควรขึ้นอยู่ที่ 11.5 – 16 กิโลกรัมนั่นเอง

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

ปลา
  • ปลาและอาหารทะเลที่สุกๆ ดิบๆ
  • อาหารทะเลที่มีสารปรอทตกค้างสูง (ปลาอินทรี, ปลาไทล์ฟิช, ปลาดาบ)
  • ปลาทะเลรมควัน
เนื้อสัตว์
  • สัตว์ปีกและไข่ที่ดิบหรือปรุงสุกๆ ดิบๆ
  • อาหารเนื้อแช่เย็นพร้อมรับประทาน เช่น แฮม
  • ตับบดและเนื้อสัตว์บดแช่เย็นสำหรับทาขนมปัง
ผลิตภัณฑ์นม
  • นมสดและผลิตภัณฑ์นมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ (บรีชีส, กามองแบร์ชีส, บลูชีส)
  • ซอฟต์ไอศกรีม
ผักและผลไม้
  • ผักและผลไม้ที่ไม่ล้างทำความสะอาด
  • น้ำผลไม้ที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์

 

อ้างอิงจาก : สำนักโภชนาการกรมอนามัย , โรงพยาบาลวิภารามvplezd

 

 

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save