fbpx

ภาวะครรภ์เป็นพิษ! ภัยเงียบที่คุณแม่ต้องระวัง

Writer : Phitchakon
: 8 มิถุนายน 2565

“ภาวะครรภ์เป็นพิษ” เป็นอีกหนึ่งภาวะผิดปกติที่คุณแม่หลายท่านต้องเผชิญขณะตั้งครรภ์ จากข้อมูลระบุว่าจากคุณแม่ 100 คน จะมีคุณแม่ที่ครรภ์เป็นพิษถึง 4 คนเลยทีเดียว ซ้ำแล้วยังเป็นภาวะผิดปกติที่มักไม่ค่อยแสดงอาการ และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด มีทางรักษาเดียวคือ การคลอดเจ้าตัวเล็กให้รวดเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอันตรายกับทั้งคุณแม่และคุณลูก เรียกว่าเป็นภัยเงียบที่ประมาทไม่ได้

วันนี้ทาง Parents One ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ลักษณะอาการและปัจจัยเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษ เพื่อให้เหล่าคุณแม่ตั้งครรภ์ได้สังเกตตนเอง พร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด เพราะรู้เร็วรู้ก่อนก็จะช่วยทุเลาความรุนแรงของโรค และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที

ภาวะครรภ์เป็นพิษ คือ ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นช่วงตั้งครรภ์  มักจะเกิดกับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป โดยคุณแม่จะมีความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 mmHg (มิลลิเมตรปรอท) และอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดแต่มีการตั้งสมมติฐานว่า เกิดจากรกฝังตัวผิดปกติ ส่งผลให้รกบางส่วนขาดออกซิเจน ขาดเลือด เมื่อเลือดไปเลี้ยงรกน้อยก็จะเกิดการหลั่งสารพิษบางอย่างกลับเข้าสู่กระแสเลือดของแม่

อาการของภาวะครรภ์เป็นพิษ

  • ความดันโลหิตสูง สูงกว่า 140/90 mmHg 
  • มือ เท้า หน้าบวม 
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นผิดปกติ  
  • ปวดศีรษะรุนแรง  
  • คลื่นไส้ อาเจียน  
  • ตาพร่ามัว  
  • จุกแน่นหน้าอก  
  • ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ  

นอกจากคุณแม่แล้ว ทางด้านทารกในครรภ์เองก็จะเติบโตช้ากว่าปกติ ตัวเล็ก มีน้ำคร่ำน้อย และไม่ค่อยดิ้น ไม่ค่อยเคลื่อนไหว  

ระดับอาการ 

ภาวะครรภ์เป็นพิษมีความรุนแรงหลายระดับ จำแนกออกมาได้ดังนี้   

ระดับไม่รุนแรง (Non – Severe Pre – Eclampsia) 

  • ความดันสูงกว่า 140/90 mmHg  แต่ไม่เกิน 160/110 mmHg 
  • ไม่พบภาวะแทรกซ้อน  

ระดับรุนแรง (Severe Pre – Eclampsia) 

  • ความดันสูงกว่า 160/110 mmHg 
  • อวัยวะทำงานผิดปกติ เช่น ตับอักเสบ เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดแดงแตก  

ระดับรุนแรง-มีภาวะชัก (Eclampsia) 

  • ชัก เกร็ง หมดสติ  
  • อาจมีเลือดออกในสมอง  
  • ควรเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตทั้งแม่และลูก 

ปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ  

  • คุณแม่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 35 ปี
  • โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคอ้วน ความดัน
  • การตั้งครรภ์แฝด
  • การตั้งครรภ์ครั้งแรก
  • เป็นผู้มีบุตรยาก
  • คนในครอบครัวมีประวัติครรภ์เป็นพิษ

วิธีป้องกันครรภ์เป็นพิษ​ 

ปัจจุบันยังไม่สามารถป้องกันการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษได้ 100% แต่คุณแม่ควรดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (แนะนำเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับคุณแม่ท้องโดยเฉพาะ) หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด และงดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์

สำคัญที่สุดคือเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ควรดำเนินการฝากครรภ์ทันที  และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะคุณแม่แต่ละท่านมีพื้นฐานร่างกายและอาการของโรคที่แตกต่างกันไป การพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอจึงถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับภาวะครรภ์เป็นพิษ

ในช่วงที่กำลังอุ้มท้องเจ้าตัวเล็ก แน่นอนว่าคุณแม่ย่อมมีความกังวลใจมากมายไปหมด สิ่งที่ทำได้คือเตรียมตัวให้พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยใจเข้มแข็ง คอยดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หมั่นสังเกตอาการและอย่านิ่งเฉยกับความผิดปกติเล็กน้อย เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาการอาจยิ่งทวีความรุนแรง กว่าที่จะรู้ตัวอาจสายเกินแก้ไขแล้วก็เป็นได้

สุดท้ายนี้ Parents One ขอส่งกำลังใจและความห่วงใยให้คุณแม่ทุกท่านผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการรอคอยไปได้ด้วยดี แข็งแรงทั้งกายใจพร้อมจะพบเจ้าตัวน้อยด้วยรอยยิ้มนะคะ

อ้างอิง

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save