fbpx

10 Superfoods เพิ่มพลังร่างกายและสมองให้ลูกรัก

Writer : nunzmoko
: 1 ตุลาคม 2561

Superfood คือ อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย วันนี้ทาง Parents One มี 10 สุดยอด Superfood สำหรับเด็ก เหมาะกับการนำมาเป็นทั้งอาหารมื้อหลัก อาหารเสริม อาหารว่างให้แก่ลูกรัก รับรองว่าประโยชน์ล้น ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

1. เบอร์รี

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มีไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูงช่วยให้การทำงานของระบบย่อยมีประสิทธิภาพ ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวพรรณให้สดใส และยังช่วยป้องกันไข้หวัด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ลูกรัก นอกจากนี้ ยังมีผลการวิจัยจากนักโภชนาการว่าเบอร์รีมีส่วนช่วยในการบำบัดจิตใจจากภาวะโรคเครียด โรคซึมเศร้า ช่วยทำให้ระบบประสาทสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แถมยังทำให้นอนหลับสบายได้แบบยาวๆ การนอนหลับที่เพียงพอ ช่วยให้ลูกมีสมองที่ดี พร้อมรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

เมนูแนะนำ : สมูทตี้เบอรี่รวม, เบอร์รีฟรี๊ซ, ไอศกรีมเบอร์รีโฮมเมด, แพนเค้กมิกซ์เบอร์รี

2. อะโวคาโด

อะโวคาโดมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นสุดยอดอาหารสำหรับเด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป อุดมไปด้วยโปรตีนชนิดย่อยง่าย, ไขมัน HDL, วิตามินและเกลือแร่มากมาย ส่งผลดีต่อพัฒนาการโดยรวมของเด็ก เป็นแหล่งไขมันอิ่มตัว ช่วยในเรื่องพัฒนาการและการมองเห็น มีไฟเบอร์สูง ย่อยง่าย กระตุ้นระบบขับถ่าย อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันหวัด เหงืออักเสบ เลือดออกตามไรฟัน

เมนูแนะนำ : ไอศกรีมอโวคาโด, แซนวิชทูน่าอะโวคาโด, ไข่อบอะโวคาโด, อะโวคาโดซูชิโรล

3. ปลาที่มีโอเมกา 3

ปลาที่มีโอเมก้า 3 อย่างปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาสวาย ปลาสำลี ทั้งหมดนี้มีกรดไขมัน DHA  ที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองให้กับลูก มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาด้านเชาว์ปัญญาและความจำ เช่น กระตุ้นความจำ และมีสมาธิจดจ่อนานขึ้น ด้านพฤติกรรม ช่วยบรรเทาอาการเด็กมีสมาธิสั้น และไม่ชอบอยู่นิ่งๆ และช่วยให้ลูกมีการเรียนรู้ได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

เมนูแนะนำ : สเต็กปลาสำลี, พาสต้าปลาซาร์ดีน, ข้าวผัดปลาทู, ซุปปลาแซลมอน, ข้าวปั้นแซลมอนย่าง

4. ผักโขม

ผักโขมเป็นผักที่มีคุณค่าโปรตีนและแคลเซียมที่สูงกว่าน้ำนม เป็นแหล่งชั้นเลิศของธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส กรดโฟลิก วิตามินเอและซี ช่วยบำรุงกระดูกและสมอง บำรุงสายตา มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังของลูกรัก ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ ผักโขมยังช่วยแก้อาการเด็กลิ้นเป็นฝ้าละอองและเบื่ออาหาร

เมนูแนะนำ : ซุปผักโขม, ผักโขมอบชีส, ลาซานญ่าผักโขม, พาสต้ากุ้งผักโขม

5. ถั่วและธัญพืช

ถั่วและธัญพืชต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์ งา และถั่วต่างๆ ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันดี โปรตีน และมีใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย โปรตีนจากถั่วก็ช่วยพัฒนาร่างการของเด็กได้เป็นอย่างดี

เมนูแนะนำ : แอลมอนด์อบ, ถั่วอบต่างๆ, ขนมปังธัญพืชอบชีส, ธัญพืชบาร์

6. โยเกิร์ต

โยเกิร์ตมีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กๆ อย่างมาก เพราะอุดมไปด้วย โปรตีนและแคลเซียม ในโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ ที่ช่วยให้ลำไส้และระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือจุลินทรีย์นี้จะช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสและโปรตีนในนมไปแล้วระดับหนึ่ง เมื่อเด็กทานแล้วร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่มีปัญหาของการย่อยและการดูดซึมน้ำตาลแลคโตส โยเกิร์ตเหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป

เมนูแนะนำ : กลาโนล่าโยเกิร์ต, โยเกิร์ตผลไม้รวม, ไอศกรีมโยเกิร์ต

7. ข้าวโอ๊ต

หากเด็กๆ รับประทานข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้าเป็นประจำ สารอาหารในข้าวโอ๊ตจะช่วยให้สมองและร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสม เพราะในข้าวโอ๊ตมีทั้งวิตามิน B โทแทสเซียม และสังกะสี ข้าวโอ๊ตมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ลูกมีระบบขับถ่ายที่ดี

เมนูแนะนำ : โจ๊กข้าวโอ๊ต, คุ้กกี้ข้าวโอ๊ต, ข้าวโอ๊ตโยเกิร์ต, โอ๊ตบาร์

8. มันหวาน

มันหวาน ไม่ว่าจะเป็นมันสีเหลืองหรือมันสีม่วง ก็อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อิ่มนาน แถมรสหวานอร่อย ทานง่าย ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารของลูกดีขึ้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม โพแทสเซียมและธาตุเหล็ก

เมนูแนะนำ : มันบด, ซุปมันบด, มันอบชีส, มันต้มขิง, เฟรนซ์ฟรายมันเทศม่วง

9. ไข่ไก่

ไข่ถือเป็นสุดยอดอาหารที่มีประโยชน์ทั้งเด็กที่กำลังเจริญเติบโตและแม่ท้อง เพราะมีไขมันดี และวิตามินต่างๆ ทั้ง A, D, E, K และ B12 ให้พลังงานต่ำ โปรตีนสูง ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงให้เป็นปกติ ที่สำคัญในไข่ 1 ฟองมีโคลีนมากถึง 20% เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์สมอง จึงช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทให้แข็งแรง

เมนูแนะนำ : ข้าวไข่เจียวกุ้ง, ไข่ข้นเบคอน, ไข่ม้วนปูอัด, ไข่ตุ๋นผักสามสี, ข้าวห่อไข่ทรงเครื่อง

10. แอปเปิล

ในแอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามินซี เกลือแร่ วิตามินต่างๆ มากมาย ซึ่งเหมาะมากที่จะนำแอปเปิลมาทำเป็นอาหารเสริมให้เด็กทารก แอปเปิลมีรสหวาน ทานง่าย ช่วยแก้ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อในกระเพาะของทารกได้ สำหรับลูกวัย 1.5 ขวบขึ้นไป การทานแอปเปิลได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก จะได้รับเส้นใยอาหาร ที่ดีต่อระบบขับถ่าย ทำให้ฟันของลูกแข็งแรง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณของลูกรักได้เป็นอย่างดี

เมนูแนะนำ : แอปเปิลนุ่มนมสด, แอปเปิลโยเกิร์ต, แอปเปิลบด, ซุปแอปเปิล

เป็นยังไงบ้างคะ กับ 10 Superfood ที่แนะนำในวันนี้  นอกจากคุณประโยชน์มากมายแล้ว ยังสามารถนำมาประกอบอาหารให้อร่อย ถูกใจคุณหนูๆ อีกด้วย วันหยุดนี้คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมลองนำเมนูอาหารที่แนะนำ ทำให้ลูกน้อยได้ลองทานกันนะคะ

ที่มา – www.parents.com

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save