fbpx

12 อาหาร Finger Food สำหรับลูกน้อย ทานไปเพลินไป

Writer : nunzmoko
: 12 เมษายน 2562

Finger Food คืออาหารที่ใช้มือหยิบจับขึ้นมากินได้ เหมาะกับเด็กที่อายุ 8 เดือนขึ้นไป เขาสามารถใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้หยิบจับสิ่งของได้แล้ว นอกจากนิ้วมือหรือกล้ามเนื้อมัดเล็กที่เป็นพัฒนาการสำคัญแล้ว เจ้าหนูยังมีฟัน เหงือก และกรามที่จะต้องได้รับการพัฒนาเช่นเดียวกัน ซึ่งเมนู Finger food นี้จะช่วยบริหารเหงือก กระตุ้นให้ฟันขึ้นเร็วขึ้น และได้ฝึกการใช้กรามในการบดเคี้ยว ซึ่งอาหาร Finger Food ที่จะมาแนะนำในวันนี้ เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับลูกน้อย แถมอร่อยทานเพลินอีกด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

12 อาหาร Finger Food ที่แนะนำ

1. แตงกวาหั่นเต๋า

คุณแม่สามารถปอกเปลือกและหั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหรือหั่นตามยาวเพื่อให้ลูกจับถนัดมือ

2. สตรอว์เบอร์รี

มื้อว่างยามบ่ายของลูกเติมความสดชื่นด้วยสตอร์เบอรีสับ

3. องุ่นหั่น 

องุ่นเป็นผลไม้รสหวานทานแล้วสดชื่น แต่คุณแม่ต้องไม่ลืมล้างให้สะอาดและคว้านเม็ดออกก่อนนะคะ

4. ไก่ต้ม

ไก่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของลูกเพราะมีโปรตีนสูง นำเนื้อไก่ไปนึ่งหรือต้มสุกนำมาหั่นเต๋าหรือฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ

5. มันฝรั่งบด 

ถ้าลูกเบื่อผลไม้แล้ว ลองทำมันฝรั่งที่นึ่งสุกแล้วมาสไลด์หรือบดนุ่มๆ มาปั้นก้อนให้ลูกทาน ได้คาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อร่างกายมีแรงเล่นสนุกต่อค่ะ

6. แครอทจิ้มดิป 

แครอท หรือเบบี้แครอท หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มหรือนึ่งจนสุกนิ่ม แล้วเพิ่มรสชาดด้วยดิปตามที่ลูกชอบ

7. เพนเน่

เพนเน่เป็นพาสต้าชนิดหนึ่งนำไปลวกให้นิ่ม อร่อยเพลินนุ่มนิ่ม

8. บล็อคโคลีนึ่งสับ

บล็อคโคลีนำไปต้มหรือนึ่ง เป็นผักที่มีประโยชน์และเป็นการส่งเสริมให้ลูกน้อยฝึกนิสัยชอบทานผักอีกด้วย

9. ไข่ขาวต้มหั่นเป็นเสี้ยว 

โปรตีนดีอย่างไข่ไก่ต้มสุกก็เหมาะเป็นอาหารเสริมให้ลูกน้อยเช่นกัน

10. ชีสชนิดนุ่ม

ชีสหั่นเป็นแท่งหรือเป็นชิ้นเล็กๆ เริ่มให้กินได้เมื่อลูกน้อยอายุ 10 เดือนขึ้นไปค่ะ

11. อะโวคาโด

ให้คุณแม่หั่นอะโวคาโดเป็นชิ้นเล็กๆ หรือสไลด์บาง ทำให้ลูกได้รับไขมันที่ดีต่อร่างกาย

12. ราสเบอร์รี 

อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ลูกขับถ่ายได้ดี มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย

TIPS : Baby dip

เพื่อไม่ให้ลูกเบื่อเมนูอาหาร แนะนำให้คุณแม่ลองทำดิปสำหรับจิ้มอาหาร Finger Food ง่ายๆ สิ่งสำคัญคือจะต้องบดหรือปั่นจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เวลาลูกจิ้มจะไม่แยกส่วนและไม่จำเป็นต้องแต่งรสชาติ เป็นสีสันให้เมนู Finger food ชวนลูกจิ้มค่ะ

  • Sunset Orange : ส่วนประกอบ ได้แก่ ไข่แดงต้มสุก แคนตาลูป(สีส้ม) นมผงชงข้น
  • Tropical Green : ส่วนประกอบ ได้แก่ แตงกวาคัดเม็ดออก กล้วยน้ำว้าสุก อะโวคาโด เนื้ออกไก่ต้มสุก
  • River Violet : ส่วนประกอบ ได้แก่ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ บีทรูทต้มสุก เนื้อปลาน้ำจืดต้มสุก

หวังว่าพอจะเป็นไอเดียให้คุณพ่อคุณแม่ ได้ลองนำไปวางแผนการทานอาหารมื้อเสริมให้ลูกน้อย เพราะนอกจากลูกน้อยจะสนุกกับการเรียนรู้ผ่านการกินอาหารชนิดใหม่ๆ ในรูปแบบใหม่ๆ แล้ว ยังเป็นการช่วยเสริมให้ลูกน้อยได้รับโภชนาการที่ดีจากอาหารหลากหลายชนิดด้วยค่ะ

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



เด็กผู้หญิงโตเร็วกว่าปกติได้อย่างไร ?
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
5 เคล็ดลับทำให้ลูกชอบกินผัก
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save