fbpx

เตือนภัยสุขภาพเด็ก!! อันตรายจากขนมขบเคี้ยว

Writer : nunzmoko
: 23 กันยายน 2561

ปัจจุบันขนมขบเคี้ยวมีให้เลือกซื้อ เลือกทานมากมาย ด้วยหน้าตาและสีสันที่น่ารับประทาน รสชาติอร่อย บางชนิดมีของเล่นในซองให้อีกด้วย ซึ่งขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่มักทำจากแป้ง น้ำตาล ไขมัน ล้วนให้เพียงพลังงานแต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ แต่เด็กๆ กลับชอบรับประทานมากกว่าอาหารมื้อหลัก เป็นสาเหตุที่ทำให้มีปัญหาสุขภาพ และทำให้การเจริญเติบโตช้าลง วันนี้จะพาไปดูโทษและอันตรายจากขนมขบเคี้ยวเหล่านี้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1. เป็นสาเหตุของโรคอ้วน

ขนมขบเคี้ยวบางชนิดมีรสหวาน ไม่ว่าจะเป็นลูกอม หมากฝรั่ง เยลลี่ ซึ่งมีการเติมสารให้ความหวานและน้ำตาลลงไปเป็นจำนวนมาก เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วไม่มีการเผาผลาญ กลูโคสในน้ำตาลจะแปรสภาพเป็นไขมันและเกาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกายทำให้อ้วนได้ อีกทั้งเด็กๆ บางคนยังชอบทานขนมมากกว่ามื้อหลักทำให้ได้สารอาหารไม่ครบถ้วนอีกด้วย

2. เป็นสาเหตุของฟันผุ

น้ำตาลในขนมขบเคี้ยวต่างๆ ยังเป็นสาเหตุของฟันผุ เมื่อน้ำตาลเข้าไปเกาะตามรูเล็กๆ บริเวณผิวฟัน จะเกิดเป็นคราบพลักซ์ ยิ่งเด็กๆ บางคนที่แปรงฟันไม่สะอาด หรือไม่ชอบแปรงฟัน จะทำให้ฟันดำหรือผุในที่สุดค่ะ

3. เป็นสาเหตุของโรคไต

ขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่จะมีการเติมเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ ยิ่งเป็นขนมทอดกรอบจำพวกมันฝรั่งหรือแป้งทอดปรุงรสด้วยแล้ว ยิ่งมีทั้งการแต่งสี กลิ่นและใส่ผงชูรสร่วมด้วย หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากไตที่ทำหน้าที่กำจัดเกลือและของเสียจะทำงานหนักขึ้น ดังนั้นควรรับประทานแต่พอดีหรือหากเป็นไปได้ให้งดรับประทานไปเลย

4. เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง

ขนมขบเคี้ยวจำพวกช็อกโกแลตหรือขนมอบเคลือบช็อกโกแลตล้วนเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสารหลายอย่างทั้ง เฟนิลไธลามิน, ธีโอโบรไมน์ และกาเฟอีนซึ่งหากรับประทานมากเกินไปจะทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงและทำให้เกิดความดันโลหิตสูงตามไปด้วย

5. เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

ขนมขบเคี้ยวที่ใช้น้ำมันในการทอดไม่ว่าจะเป็นแป้ง ถั่ว และเมล็ดพืชทอดกรอบเป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดสูงได้ทั้งนั้น หากรับประทานมากเกินไปไขมันไม่ดีเหล่านั้นจะสะสมตามชั้นผิวหนังทำให้เกิดเซลลูไลท์และหากสะสมในเส้นเลือดจะทำให้การลำเลี้ยงเฮโมโกบินไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ไม่ดี เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดสูงได้

6. เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง

สำนักงานอาหารแห่งประเทศสวีเดนวิจัยพบว่า อาหารที่ถูกทอดหรืออบด้วยความร้อนสูง เช่น มันฝรั่งทอด ขนมปังกรอบและบิสกิตนั้นมีสารอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งประกอบอยู่ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ทอดในน้ำมันที่ถูกใช้ปรุงอาหารเกินสองครั้งนั้นพบว่า มีสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการแตกตัวของน้ำมันที่เสื่อมสภาพ ซึ่งหากบริโภคติดต่อกันก็อาจเข้าไปสะสมในร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร

ขนมขบเคี้ยวมักมี แป้ง น้ำตาล ไขมัน ผงชูรส เกลือ กลิ่นและสีปรุงแต่งอาหาร ถือว่าเป็นอาหารขยะ เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อย แต่ก็มีขนมอีกหลายอย่างที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์เป็นขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้อได้ดีกว่า เช่น ถั่วอบกรอบ ผลไม้สด โอ๊ตบาร์ ดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น ดังนั้นการเลือกบริโภคอาหารที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอย่างมาก เพราะหากรับประทานขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์เข้าไปในปริมาณมาก จะส่งผลต่อสุขภาพและสร้างนิสัยการกินของเด็กๆ ที่ไม่ดีในอนาคตค่ะ

ที่มา – 

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



จะรู้ได้ยังไงว่าลูกแพ้นมวัว?
ช่วงวัยของเด็ก
เด็กผู้หญิงโตเร็วกว่าปกติได้อย่างไร ?
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save