fbpx

นมพร้อมดื่มของลูก เก็บรักษาอย่างไร

: 5 พฤศจิกายน 2561

เพราะนมมีประโชน์ต่อร่างกาย จึงควรดื่มนมเป็นประจำทุกวัน ควบคู่กับการกินอาหารครบ 5 หมู่ เพื่อให้รับสารอาหารอย่างเพียงพอต่อร่างกาย แต่นมแต่ละแบบมีความแตกต่างกันในเรื่องกระบวนการผลิตและการดูแล ดังนั้น เมื่อลูกถึงช่วงดื่มนมจากกล่อง เราจึงควรรู้และเข้าใจวิธีเก็บรักษากันค่ะ

นมพาสเจอร์ไรส์ 

ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อที่ใช้ความร้อนสูงไม่มาก แค่เพียงทำลายเอ็นไซม์ต่างๆ และจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค จึงไม่ทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้นมเสีย  นมชนิดนี้จึงเสียง่ายกว่าชนิดอื่นๆ อยู่ได้ 3-5 วันเท่านั้น แต่ก็มีคุณค่าทางอาหารสูง

  • ไม่ควรซื้อมาเก็บไว้คราวละมาก
  • ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อไม่ให้นมเน่าเสียได้
  • กินให้หมดในครั้งเดียว ไม่ควรเก็บไว้และกินต่อภายหลัง 

นม UHT

ผ่านการทำลายเชื้อจุลินทรีย์ด้วยความร้อนสูง บรรจุในกล่องที่ปลอดเชื้อ สามารถคงกลิ่น สี รสไว้ได้ และเก็บไว้ภายนอกได้นานโดยไม่ต้องแช่ในตู้เย็น แต่เมื่อถึงระยะหนึ่งนมจะหนืด กลิ่นอาจเปลี่ยน แสดงว่านมกล่องนั้นหมดอายุแล้ว

  • ดูสภาพกล่องนม ว่ามีรอยรั่วซึม หักย่น บวมหรือไม่
  • ถ้าเทนมใส่แก้ว ดูลักษณะของนม ว่ามีสี กลิ่น รสผิดปกติหรือไม่
  • เก็บในบริเวณที่สะอาด ไม่มีสัตว์แมลงกัดแทะกล่องได้

นมสเตอริไรส์

ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส ในเวลาที่เหมาะสม เพื่อทำลายทั้งจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคและจุลินทรีย์ที่ทำให้นมเสีย เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นาน นานถึง 1 ปี โดยไม่แช่เย็น มักบรรจุลงในกระป๋องที่ปิดสนิทมากกว่ากล่องกระดาษแบบนม UHT 

  • มีชื่อและที่อยู่ผู้ผลิต ดูวันหมดอายุ หรือวันที่ควรบริโภคก่อน
  • บรรจุภัณฑ์ไม่บิดเบี้ยว บวม หรือรั่วซึม และไม่วางทับซ้อนสูงเกินไป หรือวางตากแดด ใกล้แหล่งความร้อน
  • ดูลักษณะของนมก่อนดื่ม เช่น จับเป็นตะกอนเป็นยางเหนียว สีเปลี่ยนไปหรือมีกลิ่นเหม็นหรือไม่

เพื่อความมั่นใจในประโยชน์และคุณภาพของนมพร้อมดื่ม เราจึงต้องใส่ใจ ระมัดระวังในการเก็บรักษากันนะคะ 🙂

Writer Profile : Tuk LittleMonster

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save